SPRC ดีดตัวขึ้น 3.60% หรือเพิ่มขึ้น 0.40 บาท มาที่ 11.50 บาท เมื่อเวลา 10.38 น.โดยราคาเปิด 11.30 บาท ราคาสูงสุด 11.60 บาท ราคาต่ำสุด 11.30 บาท
บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ บมจ.สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) รายงานกำไรไตรมาส 1/65 สูงเป็นสถิติ ภาพรวมธุรกิจยังแข็งแกร่ง โดยบริษัทมองว่าอุปสงค์ของผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปยังคงดีอยู่ โดย gasoline จะได้แรงหนุนจาก US driving season ในระยะสั้น ขณะที่ middle distillates (diesel, jet fuel) จะยังคงแข็งแกร่งในครึ่งปีหลัง หนุนด้วยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและปริมาณสำรองที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว
ทั้งนี้ บริษัทยังคงกลยุทธ์ในการเพิ่มผลผลิต light products (เช่น gasoline และ middle distillates) ให้ได้สูงที่สุดเพื่อได้ประโยชน์จาก crack spread ที่สูง จึงต้องเน้นใช้ light crude ซึ่งอาจส่งผลให้ crude run สูงขึ้นกว่าปัจจุบันไม่ได้มาก (150kbd ในไตรมาส 1/65)
ส่วนการตั้งสำรองค่าใช้จ่ายจากเหตุการณ์น้ำมันรั่วไปแล้ว SPRC เปิดเผยว่าได้ตั้งสารองค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับเหตุการณ์น้ำมันรั่วไปส่วนใหญ่แล้วในไตรมาส 1/65 ซึ่งถ้าหากมีเพิ่มอีกก็จะมีเหลือเล็กน้อยในไตรมาส 2/65 อย่างไรก็ดี บริษัทยังไม่กำหนดเวลากลับมาใช้ทุ่นผูกเรือน้าลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเลหรือจุดขนถ่ายน้ามันในทะเล (SPM) และยังคงใช้การส่งน้ำมันแบบ ship to ship ซึ่งมีค่าใช้จ่ายประมาณ USD0.6/bbl-USD-0.7/bbl (ถ้าหักค่าใช้จ่ายนี้ market GRM ในไตรมาส 1/65 จะสูงกว่า USD9.0/bbl)
เคทีบีเอสที คงประมาณการกำไรปี 65-66 ที่ 10.6/7.1 พันล้านบาท สูงขึ้นจาก 4.7 พันล้านบาท ในปี 64 โดยมีปัจจัยหนุนจาก Market GRM ที่เราคาดว่าจะสูงขึ้นเป็น USD 8.7/bbl/USD 7.9/bbl จาก USD3.7/bbl ตามแนวโน้ม crack spread ที่ฟื้นตัวตามอุปสงค์ผลิตภัณฑ์น้ามัน นอกจากนี้ เราประเมินว่า crude run จะสูงขึ้นเป็น 153-154kbd จาก 145kbd
คงราคาเป้าหมายปี 65 ที่ 12.50 บาท อิง 2022E PBV 1.30x (เท่ากับ -0.25SD ต่ากว่าค่าเฉลี่ย PBV ย้อนหลัง 5 ปี) เราเชื่อว่าบริษัทจะได้ประโยชน์จาก crack spread ที่ยืนสูงได้ต่อเนื่องจากผลพวงของสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนซึ่งส่งผลให้อุปทานน้ามันโลกตึงตัว อีกทั้ง เราเชื่อว่า gasoline crack จะได้แรงหนุนจาก US driving season ที่กำลังจะมาถึง นอกจากนี้ เราเชื่อว่าการจ่ายปันผลระหว่างกาลที่เป็นไปได้ก็จะเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมราคาหุ้นด้วย