นายปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล (GPI) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/65 บริษัทฯ สามารถสร้างการเติบโตในระดับที่แข็งแกร่งทั้งรายได้และกำไร โดยมีกำไรสุทธิ 111.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 98.29 ล้านบาท ส่วนรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 398.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 324.09 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญที่หนุนผลการดำเนินงานไตรมาสแรกของปีนี้ให้เติบโต เนื่องจากการจัดงาน "บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2022" เมื่อวันที่ 23 มีนาคม - 3 เมษายนที่ผ่านมา ที่มีรายได้สูงกว่าปีก่อนประมาณ 23% เนื่องจากได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ที่เข้าร่วมออกบูธเป็นจำนวนมาก บริษัทฯ จึงสามารถขายพื้นที่ได้มากขึ้น และสะท้อนให้เห็นว่าแนวโน้มของอุตสาหกรรมยานยนต์เริ่มฟื้นตัวกลับสู่ภาวะปกติ โดยในไตรมาส 1/65 บริษัทฯ ได้รับรู้รายได้บางส่วนจากการจัดงานดังกล่าวในช่วง 9 วันแรก ส่วนที่เหลืออีก 3 วันจะรับรู้รายได้เข้ามาในไตรมาส 2/65
"ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกของปีนี้กลับมาเติบโตอย่างโดดเด่น จากการรับรู้รายได้ในการจัดงานมอเตอร์โชว์เข้ามามากขึ้น และมองว่าภาพรวมรายได้ของการจัดงานในปี 2565 จะเติบโตขึ้นกว่าปีก่อน จากกระแสต่างๆ ที่เริ่มกลับมาแล้ว ขณะที่ยอดขายรถก็ค่อยๆ ฟื้นตัวดีขึ้นตามลำดับ และเชื่อว่าในปีหน้าทุกอย่างจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติก่อนช่วงเกิดโควิด-19 ซึ่งบริษัทฯ เคยมีรายได้จากการจัดงานมอเตอร์โชว์สูงถึงปีละ 500-600 ล้านบาท" นายปราจิน กล่าว
นายพีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ GPI เปิดเผยว่า ความคืบหน้าของการเข้าร่วมลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงจากขยะแปรรูป (Refuse Derived Fuel หรือ RDF) ที่เข้าถือหุ้น 25.75% ในบริษัท ทรูเอ็นเนอร์จี จำกัด ผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงจากขยะแปรรูปในจังหวัดนครสวรรค์ หลังจากได้รับในอนุญาตประกอบกิจการล่าสุดได้เริ่มเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายเชิงพาณิชย์ (COD) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภายใต้สัญญาเสนอขายแก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จำนวน 9 เมกะวัตต์ (MW)
อย่างไรก็ดี คาดว่า GPI จะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากสัดส่วนการลงทุนเข้ามาอย่างชัดเจนในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ช่วยผลักดันผลกำไรเข้ามาอย่างสม่ำเสมอในระยะยาว