นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค (ECF) เปิดเผยถึง ผลประกอบการไตรมาส 1/65 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 420.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวของปีก่อนที่มีรายได้รวม 413.81 ล้านบาท จำนวน 6.75 ล้านบาท หรือ 1.63% และมีกำไรสุทธิ 12.35 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 13.89 ล้านบาท จำนวน 1.53 ล้านบาท หรือ 11.04 %
ทั้งนี้รายได้รวมของบริษัทยังคงเติบโต แม้จะอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่มีปัจจัยลบหลายด้านกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจ โดยสามารถสร้างรายได้จากการจำหน่ายภายในประเทศเติบโต 5.73% ขณะที่รายได้จากการส่งออกลดลงเล็กน้อย 4.19% ปัจจุบันบริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้จากการส่งออกเฟอร์นิเจอร์ 55% และจำหน่ายภายในประเทศ 45%
ส่วนกำไรสุทธิปรับตัวลดลง เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ประกอบกับ ค่าครองชีพสูง ผู้บริโภคเริ่มมีความระมัดระวังในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น อย่างไรก็ตามบริษัทได้มีการปรับปรุงการผลิต การดำเนินงาน เพื่อบริหารจัดการต้นทุนการผลิตและการขายให้มีความรัดกุม รอบคอบ ยิ่งขึ้น เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจที่อาจจะส่งผลกระทบด้านลบเพิ่มขึ้นในอนาคต
สำหรับแนวโน้มธุรกิจไตรมาส 2/65 บริษัทพยายามรักษาระดับยอดขายเฟอร์นิเจอร์ทั้งในและต่างประเทศ พร้อมทั้งบริหารจัดการออเดอร์ที่ได้รับมาให้มีประสิทธิภาพ ประกอบกับการบริหารจัดการต้นทุนการผลิตและการขาย เพื่อเพิ่มความสามารถการทำกำไร
ด้านธุรกิจพลังงานทดแทน ที่ผ่านมารับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 220 MW เมืองมินบู ประเทศเมียนมาร์ ที่เข้าลงทุนในสัดส่วน 20% สำหรับเฟสแรก (50 MW จำหน่ายไฟฟ้าเรียบร้อยแล้ว) ยังคงสามารถจำหน่ายไฟฟ้าและเรียกเก็บเงินได้ตามปกติ และการก่อสร้างเฟส 2 อีก 50 MW มีความคืบหน้า สามารถดำเนินการได้ตามแผน คาดจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4 ปีนี้