นายชัยวัฒน์ ศรีวรรณวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทิปโก้แอสฟัลท์ (TASCO) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจปริมาณการขายในปี 65 จะทำได้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 1.2 ล้านตัน แบ่งเป็นสัดส่วนการจำหน่ายในประเทศราว 50% และต่างประเทศ 50% โดยบริษัทจะเน้นการจำหน่ายยางมะตอยในกลุ่มที่มีกำไรสูงมากกว่าการจำหน่ายปริมาณในปริมาณสูง หรือจะไม่ขายในตลาดเทรดดิ้งเพราะมีกำไรต่ำ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่องและทรงตัวอยู่ในระดับสูง
ทั้งนี้ บริษัทเตรียมกลับมานำเข้าน้ำมันดิบที่เป็นวัตถุดิบหลักเพิ่มเติม หลังจากราคาขายยางมะตอยเริ่มปรับตัวขึ้นมาในระดับที่เหมาะสมกับราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมาแล้ว โดยบริษัทมั่นใจว่าจะสามารถนำเข้าน้ำมันดิบได้ตามเป้าหมายที่ 4 ชิปเม้นท์ แต่อย่างไรก็บริษัทได้มีการตุนน้ำมันดิบที่มีต้นทุนต่ำไว้แล้วบางส่วนในปี 64 ที่ผ่านมา และยังสามารถรองรับการผลิตยางมะตอยในขณะนี้ได้
สำหรับทิศทางผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2/65 จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ตามปริมาณการขายยางมะตอยที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเป็นใกล้เคียง 340,000 ตัน จากช่วงไตรมาส 1/65 ที่ผ่านมามีปริมาณการขายที่ 280,000 ตัน โดยความต้องการยางมะตอยในประเทศยังคงอยู่ในระดับสูงอยู่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดต่างประเทศเริ่มกลับมามีการทำงานมากขึ้นหนุนให้ความต้องการยางมะตอยปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย
นอกจากนี้บริษัทยังคงเน้นการบริหารจัดการต้นทุน และ ลดค่าใช้การในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง โดยค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของบริษัทลดลงเหลือ 4% จากก่อนหน้านี้อยู่ที่ระดับกว่า 5%
พร้อมกันนี้บริษัทยังคงติดตามสถานการณ์ที่สหรัฐคว่ำบาตรเวเนซุเอลาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากมีการลดมาตรการการคว่ำบาตรจริง บริษัทจะเร่งเดินหน้าเพื่อที่จะเจรจานำเข้าน้ำมันดิบเข้ามาได้ทันที