EP เล็งผนึกพันธมิตรลงทุนวินด์ฟาร์มลาว 2.5-3 หมื่นลบ.,จ่อเทกฯวินด์ฟาร์มเวียดนามเพิ่ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 18, 2022 12:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ บมจ.อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป (EP) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเจรจากับพันธมิตร 2 ราย เพื่อร่วมลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ขนาด กำลังผลิต 500-600 เมกะวัตต์ ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนรวม 2.5-3 หมื่นล้านบาท โดยโครงการวินด์ฟาร์มใน สปป.ลาว เป็นโครงการที่สามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในระดับน่าสนใจ

"จากสถานการณ์ปัจจุบันที่แนวโน้มของราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นไปสูงอย่างต่อเนื่อง ทำให้โอกาสในการหันมาใช้พลังงานทดแทนมีมากขึ้น ทาง EP จึงได้ใช้โอกาสนี้ในการลงทุนในโครงการพลังงานทางเลือกในกลุ่มอาเซียนด้วย เช่น ใน สปป.ลาว ประมาณ 500-600 เมกะวัต์ มาเลเซียประมาณ 50-100 เมกะวัตต์ และอินโดนีเซีย อีกประมาณ 100-200 เมกะวัตต์ ซึ่งประเทศในอาเซียนต่างก็มีนโยบายในการสนับสนุนการใช้พลังงานทางเลือกเพื่อตอบโจทย์การขจัดก๊าซเรือนกระจกออกจากชั้นบรรยากาศที่ประเทศต่างๆ ได้กำหนดเป้าหมายร่วมกันเพื่อการปลดปล่อยสุทธิที่ศูนย์ (Net Zero) ในปี 2050"นายยุทธ กล่าว

สำหรับความคืบหน้าของการก่อสร้างโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม กำลังการผลิตรวม 160 เมกะวัตต์ในประเทศเวียดนาม ได้เสร็จสมบูรณ์เกือบทุกโครงการแล้ว โดยโครงการในจังหวัด Gia Lai รวม 100 เมกะวัตต์ สามารถจ่ายไฟฟ้าได้ทันที เมื่อมีการเชื่อมกับโครงข่ายสายส่งไฟฟ้า ของการไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) ซึ่งขณะนี้ รอการอนุมัติการเชื่อมต่อจากทาง EVN อยู่ ส่วนโครงการในจังหวัด Huong Linh รวม 60 เมกะวัตต์ ก็มีความคืบหน้าไปมากกว่า 90% พร้อมที่จะทำการเชื่อมต่อเพื่อจ่ายไฟฟ้าได้ภายในเดือนมิถุนายน 2565 และคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส2/2565ได้ทันที

นอกจากนี้ ประเทศเวียดนาม ยังคงเป็นเป้าหมายหลักในการขยายการลงทุน เนื่องจากที่ผ่านมา เศรษฐกิจของเวียดนาม มีการขยายตัวสูงที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุนด้านอุตสาหกรรม ซึ่งทำให้มีความต้องการพลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ซึ่ง EP พร้อมด้วยพันธมิตรก็จะเข้าไปลงทุนในโครงการที่ได้มีการเจรจามาอย่างต่อเนื่อง คือ โรงไฟฟ้าพลังงาน LNG ขนาด 1,500 เมกะวัตต์ ตามที่ปรากฏอยู่ในแผน PDP 8 ซึ่งคาดว่าจะประกาศใช้ภายในไตรมาส 3/65 และยังมีการพิจารณาลงทุนในโครงการไฟฟ้าพลังงานลมที่ได้จ่ายไฟแล้ว อีก 2-3 โครงการ ขนาดรวมประมาณ 200 เมกะวัตต์ด้วยการเข้าซื้อกิจการ

นอกจากนี้ขณะที่ในประเทศไทยมีนโยบายที่ชัดเจนสนับสนุนรถ EV ซึ่งจะมีผลโดยตรงต่อนโยบายพลังงานของประเทศโดยอาจมีการรับซื้อพลังงานมากขึ้น ดังนั้นในระหว่างนี้บริษัทจึงมีแผนขยายการติดตั้ง Solar Roof (Private PPA) โดยคาดว่าจะเพิ่มจากการติดตั้งและบริหาร Private PPA เพิ่มจาก 16 เมกะวัตต์ในปัจจุบันเป็น 30 เมกะวัตต์ภายในสิ้นปี 65


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ