ภาวะตลาดหุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าปรับขึ้นรับแรงหนุนเฟดลดดอกเบี้ย-ราคาน้ำมันพุ่ง

          น.ส.สุภากร สุจิรัตนวิมล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.เคทีบี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ ทั้งดัชนีดาวโจน์ที่บวกขึ้นมาแรงและตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างปรับตัวขึ้น ภายหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น(fed funds rate)ลง 0.75% มาสู่ระดับ 2.25% และยังเสริมด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน(discount rate)อีก 0.75% มาสู่ระดับ 2.5% ทำให้สามารถลดความกังวลเกี่ยวกับความเสียหายของกลุ่มสถาบันการเงินในสหรัฐฯได้
          นอกจากนี้ จากที่ระดับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวขึ้นสูง คาดว่าจะเป็นแรงหนุนให้กลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นมา พร้อม ๆ กับกลุ่มธนาคารพาณิชย์และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ที่รับผลบวกจากปัจจัยภายนอกและการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
          สำหรับสถานการณ์การเมืองไทยยังเป็นเรื่องที่จะต้องจับตามองต่อไป แม้ว่าเวลานี้จะยังไม่มีผลกระทบต่อตลาดฯก็ตาม พร้อมให้แนวรับที่ 805 จุด แนวต้าน 820, 830 จุด
          ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :  
          - ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(18 มี.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 12,392.66 จุด เพิ่มขึ้น 420.41 จุด(+3.51%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,330.74 จุด เพิ่มขึ้น 54.14 จุด(+4.24%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,268.26 จุด เพิ่มขึ้น 91.25 จุด (+4.19%)  
          - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,098.65 ล้านบาทเมื่อวานนี้
          - ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน เม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ที่ 109.42 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 3.74 ดอลลาร์หรือ 3.54%
          - เฟดส่งสัญญาณพร้อมปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกหลังจากตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นและดอกเบี้ยมาตรฐานเมื่อคืนนี้อีก 0.75% ทั้งนี้ เพื่อยับยั้งความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะเผชิญช่วงขาลงในเวลาที่เหมาะสมและทันท่วงที และเพื่อผลักดันเศรษฐกิจสหรัฐให้ขยายตัวอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการรักษาเสถียรภาพด้านราคา
          - ผลประกอบการของเลห์แมน บราเธอร์ และโกลด์แมน แซค ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์และลดความกังวลว่าจะมีกรณีอย่างแบร์ สเติร์น ตามมาอีก
          - ครม.อนุมัติตั้งกรอบงบประมาณปี 52 วงเงิน 1.835 ล้านล้านบาท ขาดดุล 2.49 แสนล้านบาท 2.5% ของจีดีพี คาดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดันจีดีพีขยายตัว 5.5% ขณะที่ คลัง-ธปท.-สำนักงบฯ-สศช. ห่วงภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว หลังราคาน้ำมันพุ่ง ค่าเงินบาทแข็ง ฉุดส่งออกชะลอตัว เงินเฟ้อเพิ่ม “สมัคร"สั่งส่วนราชการถกรับมือน้ำมันแพง-ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ เล็งทบทวนโครงสร้างเศรษฐกิจ ทั้งการเงิน การคลัง ลดช่องว่างการกระจายรายได้
          - "สมัคร สุนทรเวช" นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ในเดือน พ.ค.นี้จะเดินทางไปรัสเซีย เพื่อเจรจาขอซื้อน้ำมันดิบจากรัฐบาลรัสเซียในราคาต่ำกว่า 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพื่อบรรเทาผลกระทบจากปัญหาราคาน้ำมันแพงในขณะนี้
          - กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF)กล่าววิกฤตเศรษฐกิจในสหรัฐร้ายแรงและลุกลามไปทั่วโลก มีความเป็นไปได้ที่อันตรายจากวิกฤตจะเพิ่มมากขึ้นและยืดเยื้อส่งผลเสียหายหนัก และจะแผ่ลามไปสู่เศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ด้วย
          - รมว.คมนาคม สั่งเร่งรัดการก่อสร้างรถไฟฟ้า 6 เส้นทางให้เริ่มดำเนินการได้ในปี 2552 และเส้นทางที่เหลือเริ่มดำเนินการได้ในปี 2553 สำหรับการก่อสร้างนั้นจะเร่งรัดให้การก่อสร้างแล้วเสร็จภายใน 2 ปีหลังการลงนามสัญญาก่อสร้าง จากเดิมที่กำหนดให้แต่ละสายแล้วเสร็จภายใน 3 ปี
          - เลขาธิการสำนักงานคณะการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) กล่าวว่า สัปดาห์หน้า คปภ.และสมาคมประกันวินาศภัยจะเดินทางลงไปในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนใต้ เพื่อหารือร่วมภาคเอกชนในพื้นที่เพื่อเชิญชวนให้รวมตัวกันทำประกันภัยก่อการร้าย ซึ่งจะส่งผลให้อัตราเบี้ยประกันลดลงได้
          - กรมการค้าภายในเสนอ "กกร." วันนี้ ห้ามเคลื่อนย้ายสุกรออกนอกประเทศหลังพบมีการส่งออกลูกสุกรผิดปกติ 4.6 หมื่นตัว หวั่นส่งผลกระทบปริมาในประเทศขาดแคลน จับมือ ก.เกษตรฯ เข้าดูแลทั้งระบบ ขีดเส้นตายผู้ค้าอาหารสัตว์ให้คำตอบจะลดราคาหรือไม่หากรัฐงดเก็บภาษีนำเข้ากากถั่วเหลืองภายในสัปดาห์นี้