ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,622.95 จุด เพิ่มขึ้น 16.97 จุด (+1.06%) มูลค่าการซื้อขายราว 66,204.09 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับตัวขึ้นตามภูมิภาค โดยดัชนีขึ้นไปทำระดับสูงสุด 1,626.16 จุด และลงไปต่ำสุดที่ 1,616.46 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 1,095 หลักทรัพย์ ลดลง 600 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 571 หลัก ทรัพย์
นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ดีตามทิศทางตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย หลังธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 5 ปี ลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 62 เพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัวหลังได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 ถือเป็นการเซอร์ไพร์ตลาดอย่างมาก
อีกทั้งบ้านเรายังได้ปัจจัยบวกจากศูนย์อำนวยการบริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ชุดใหญ่ มีมติผ่อนคลายมาตรการเพิ่มเติม โดยอนุญาตให้สถานบริการ สถานบันเทิง ผับบาร์ กลับมาเปิดให้บริการในพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว และเห็นชอบให้ปรับเปลี่ยนมาตรการด้านสาธารณสุขกรณีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจากเดิมกักตัว 5 วันและสังเกตุอาการอีก 5 วัน ปรับเป็นให้สังเกตุอาการ 10 วันโดยไม่ต้องกักตัว
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า คาดว่า การปรับตัวขึ้นของดัชนีฯ ยังจำกัด จากความเสี่ยงของเศรษฐกิจในภาพรวม หลังมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย และนักลงทุนน่าจะยังรอดูรายงานการประชุม FOMC หรือ Fed Minutes จึงอาจชะลอการลงทุนไปก่อน ให้กรอบแนวต้าน 1,630-1,650 จุด และ แนวรับ 1,590 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
PLUS มูลค่าการซื้อขาย 4,359.22 ล้านบาท ปิดที่ 5.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 3,036.82 ล้านบาท ปิดที่ 27.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,475.63 ล้านบาท ปิดที่ 12.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,427.39 ล้านบาท ปิดที่ 111.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,304.71 ล้านบาท ปิดที่ 69.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท