(เพิ่มเติม) ปธ.ตลท.เชื่อตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวระยะสั้นและยังผันผวน หลังเฟดลดดอกเบี้ย

          นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)กล่าวว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)เมื่อคืนนี้อีก 0.75% ทั้งอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นและอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานจะส่งผลให้มีเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งจะทำให้ตลาดหุ้นไทยวันนี้ฟื้นตัวในระยะสั้น เนื่องจากปัจจัยลบต่างประเทศยังคงมีอยู่ และจะทำให้ตลาดหุ้นไทยยังคงผันผวนจากเงินทุนที่ไหลเข้าและออกในระยะต่อไป
          อย่างไรก็ตาม การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดยังต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 1% แสดงให้เห็นว่าสหรัฐยังห่วงเรื่องปัญหาเงินเฟ้อที่อาจปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งรอประเมินผลจากมาตรการต่างๆ ที่นำออกมาแก้ปัญหา
          นายปกรณ์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวจะส่งผลให้เงินบาทปรับตัวแข็งค่ามากขึ้น ซึ่งเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) จะต้องไปดูแลเรื่องทิศทางอัตราดอกเบี้ยระหว่างในประเทศและต่างประเทศที่มีความแตกต่างกัน แต่เชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) จะดูแลค่าเงินบาทให้สอดคล้องกับค่าเงินสกุลอื่นๆ
          "ผมเชื่อว่าเรื่องที่เฟดลดดอกเบี้ย กนง.ก็คงเข้าไปดูแลไม่ให้ดอกเบี้ยในประเทศและแตกต่างประเทศห่างกันมากเกินไป เพราะจะมีผลให้เงินทุนไหลเข้าและอาจทำให้บาทแข็งค่ายิ่งขึ้น ตรงนี้ผมก็เชื่อมั่นว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะดูแลให้ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวสอดคล้องไปกับคู่แข่งได้" นายปกรณ์ กล่าว
          ทั้งนี้ เห็นว่า ธปท.ควรมีความอิสระในการทำงาน ปลอดการแทรกแซงจากการเมือง โดยสามารถวางกรอบอัตราเงินเฟ้อได้ด้วยตัวเองเพื่อเป็นการบริหารนโยบายการเงิน เพราะการที่กฎหมายใหม่กำหนดให้ ธปท.และกระทรวงการคลัง ร่วมกันกำหนดกรอบเงินเฟ้อ อาจทำให้เกิดความล่าช้าและถูกการเมืองแทรกแซงได้
          นายปกรณ์ กล่าวว่า นักลงทุนยังต้องการเห็นความชัดเจนเกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีของรัฐบาลว่าจะเป็นอย่างไร เช่น จะจัดทำงบประมาณแบบขาดดุลนานแค่ไหนจึงจะกลับเข้าสู่การจัดทำงบแบบสมดุล และถึงแม้ระบบเศรษฐกิจของไทยจะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกแต่เชื่อว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้นได้ถึง 6% ตามที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้
          สำหรับภาวะเศรษฐกิจของประเทศในปีนี้น่าจะเป็นไปในทางที่ดีเนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล การยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในปีนี้จะดีขึ้นกว่าปีก่อน