ราคาหุ้น CK ปรับขึ้น 1.43% หรือเพิ่มขึ้น 0.30 บาท มาที่ 21.30 บาท เมื่อเวลา 10.22 น.จากราคาเปิด 21.30 บาท ราคาสูงสุด 21.50 บาท ราคาต่ำสุด 21.20 บาท
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คงคำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น บมจ.ช.การช่าง (CK) ราคาเป้าหมาย 23.80 บาท จาก Backlog มีแนวโน้มดีขึ้น รวมถึงมีโอกาสได้สัญญาก่อสร้างใหม่จากโครงการเมกะโปรเจ็คต์ที่เปิดประมูลในปี 65
CK เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง จากปัจจัยหนุน 3 ข้อ (1) คุณภาพ backlog ที่ดีกว่าคู่แข่งอย่าง STEC, (2) โอกาสในการได้สัญญาก่อสร้างใหม่ และ (3) รายได้เงินปันผลและส่วนแบ่งกำไรสูงขึ้นจาก TTW, BEM และ CKP
ณ วันที่ 31 มี.ค.65 มี Backlog มูลค่า 6.15 หมื่นลบ.จาก 4.59 หมื่นลบ. ณ 31 ธ.ค.64 โดย backlog แข็งแกร่งได้รับแรงหนุนจากโครงการรถไฟรางคู่มูลค่า 2.28 หมื่นลบ. และ MRT สายสีม่วง มูลค่า 1.81 หมื่นลบ. โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำหลวงพระบางมูลค่า 8 หมื่น-1 แสน ลบ.ที่มีการเซ็น PPA ภายในสิ้นปี 65 และ EIA ของโครงการ 3 double track (รถไฟทางคู่) มูลค่า 1.238 แสนลบ.ได้รับการอนุมัติและอาจเริ่มประมูลในไตรมาส 4/65
ส่วน TOR สายสีส้มใหม่คาดว่าจะมีทั้งข้อได้เปรียบและเสียเปรียบ ขณะที่ รฟม. จะพิจารณาซองประมูลในต.ค. และจะประกาศผู้ชนะในปลายปี 65 ในส่วนคะแนนเทคนิคผู้เข้าประมูลจำเป็นต้องได้คะแนนเทคนิค 90% จากคะแนนทั้งหมด เทียบกับ 85% ในสายสีม่วง ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อ CK ที่มีประสบการณ์งานก่อสร้างใต้ดินและการดำเนินงานขนส่งมวลชนใต้ดิน อย่างไรก็ตาม TOR เปิดโอกาสให้ผู้ดำเนินงานขนส่งมวลชนจากต่างชาติเข้าประมูลด้วย ซึ่งอาจทำให้เกิดการแข่งขันรุนแรงขึ้น
ขณะที่ บล.เคทีบีเอสที คงคำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น CK ราคาเป้าหมาย 25.60 บาท อิง SOTP โดยมี catalysts จากการเปิดขายซองโครงการสายสีส้ม ซึ่งกลุ่ม BEM-CK เป็นตัวเก็งการประมูล รวมถึงความคืบหน้าสัญญา EPC ของโครงการหลวงพระบางใน H2/65 สาหรับ key risks ได้แก่ การประมูลโครงการรัฐและความคืบหน้าโครงการที่ช้ากว่าคาด, ต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่ผันผวนมากกว่าคาด, และนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของรัฐ
เรามีมุมมองเป็นกลางจากการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้ ซึ่งเป้าหมายโดยรวมและความคืบหน้าโครงการยังเป็นไปตามที่คาด โดยมีประเด็นสำคัญ ดังนี้ 1) บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 65 ที่ 1.7-1.8 หมื่นล้านบาท ใกล้เคียงเราคาด 1.7 หมื่นล้านบาท และมองว่ายังสามารถบริหารจัดการ GPM ได้ในระดับ 7-10% เราคาด 8%
2) แม้โครงการสายสีส้มจะมีการปรับเกณฑ์คะแนนเทคนิคขึ้นและมีโอกาสเห็นการแข่งขันสูงขึ้น แต่บริษัทยังเชื่อมั่นในศักยภาพ ขณะที่กาลังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะยื่นร่วมประมูลกับ BEM หรือไม่
และ 3) คาดสัญญาอื่น ๆ ของโครงการหลวงพระบาง ซึ่งรวมถึงสัญญา EPC จะได้ข้อสรุปภายใน H2/65
ทั้งนี้ คงประมาณการกำไรปกติปี 65 ที่ 1.1 พันล้านบาท ฟื้นตัวจากปี 64 ที่มีกำไรปกติ 100 ล้านบาท ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น และ outperform SET +10% ใน 1 เดือน หนุนโดยผลการดำเนินงาน Q1/65 ที่ดีกว่าคาดและความคืบหน้าการประมูลสายสีส้ม