นายวสุ กลมเกลี้ยง ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนากลยุทธ์และวางแผนการลงทุน บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) เปิดเผยว่า บริษัทคาดผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/65 จะเติบโตดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์ฟาร์ม) ดำเนินการเปลี่ยนแผงโซลาร์ใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ทำให้ประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าดีขึ้น จะส่งผลดีต่อการรับรู้รายได้เข้ามามากขึ้น ประกอบกับ บริษัทจะทยอยรับรู้รายได้จากการส่งมอบรถบัสไฟฟ้า (E-Bus) ด้วย ซึ่งทั้งปีนี้คาดว่าส่งมอบได้ราว 1,500-2,000 คัน
นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ขยายไลน์ธุรกิจไปสู่การบริหารจัดการขยะ ล่าสุดชนะประมูลงานบริหารจัดการขยะบนเกาะล้าน จ.ชลบุรี รอการลงนานในสัญญาฯ ซึ่งตั้งแต่ไตรมาส 2/65 เป็นต้นไปจะเห็น EA เข้าไปมีบทบาทในเรื่องของ Wast to Energy มากขึ้น และยังมีแผนรุกเข้าสู่ธุรกิจโรงไฟฟ้าขยะ หลังจากภาครัฐเปิดรับซื้อไฟฟ้า คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายใน 2 ปีจากนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับกลุ่มพลังงานทดแทน และทดแทนรายได้จาก Adder ที่จะหมดอายุ
บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ในปี 65 เติบโตกว่า 20% ตามการเติบโตของทุกธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจ EV ซึ่งนอกเหนือจากการส่งมอบ E-Bus แล้ว ปัจจุบันก็อยู่ระหว่างการเจรจาความร่วมมือกับผู้ประกอบการรถบรรทุก เพื่อผลักดันให้เกิดการใช้รถบรรทุกไฟฟ้า (E-Truck) มากขึ้น คาดว่าจะสามารถส่งมอบ E-Truck ได้หลายร้อยคันในปีนี้ ซึ่งจะช่วยต่อยอด EA Ecosystem ทั้งระบบ
อีกทั้งยังเดินหน้าขยายโรงงานแบตเตอรี่เป็น 2 กิกะวัตต์ชั่วโมง (GWH) จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 1 GWH โดยวางงบลงทุนราว 1,000-2,000 ล้านบาท
พร้อมกันนี้บริษัทเตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพวงเงิน 30,000 ล้านบาทให้แก่นักลงทุนต่างประเทศ โดยจะดำเนินการในเดือนมิ.ย.65 เพื่อรองรับการลงทุนในช่วง 3 ปี แบ่งเป็น การขยาย EV (EV Expansion) 40%, การขยายโรงงานแบตเตอรี่ เพิ่มเป็น 4 GWH ราว 20% และอีก 40% ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในบริษัทฯ เพื่อรองรับการลงทุนใหม่ๆ ในอนาคต