PF เชื่อ H2/65 ฟื้นชัดรับโครงการใหม่เพิ่ม-ยอดโอนโต-โรงแรมดีขึ้น-ขายที่ดิน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 26, 2022 13:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธีรธัชช์ สิงห์ณรงค์ธร ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มสนับสนุน บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PF) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าภาพรวมผลการดำเนินงานจะเห็นการฟื้นตัวชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง และมีโอกาสพลิกกลับมามีกำไรได้ หลังจากไตรมาส 1/65 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 525.33 ล้านบาท

ในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อขายจะเห็นการโอนโครงการมากขึ้นในครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะ คอนโดมิเนียมไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ ภายใต้การพัฒนาของ บมจ.แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ (GRAND) มูลค่าโครงการ 5.9 พันล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 2.2 พันล้านบาท จะเริ่มทยอยโอนในเดือน มิ.ย.95 คาดว่ายอดโอนจะเข้ามามากในไตรมาส 3/65

ประกอบกับ จะมียอดโอนโครงการแนวราบและคอนโดมิเนียมของ PF ที่เปิดขายในช่วงครึ่งปีแรก โดยบริษัทเปิดโครงการแนวราบ 3 โครงการที่บริษัทพัฒนาเอง และอีก 1 โครงการร่วมทุน

นายธีรธัชช์ ยังเชื่อว่าหลังจากภาครัฐผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด และเปิดประเทศเปิดเมืองมากขึ้น ส่งผลให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น ส่งผลให้อัตราการเข้าพักโรงแรมของ GRAND เริ่มเห็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาที่ 30-40% แล้ว และคาดว่าจะเห็นแนวโน้มของอัตราเข้าพักสูงขึ้นต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะไตรมาส 4/65 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น เป็นอีกปัจจัยหนุนต่อการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานของบริษัท จึงมั่นใจว่ารายได้รวมของบริษัททำได้ตามเป้าหมายที่ 1.9 หมื่นล้านบาท

อีกทั้งในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทคาดว่าจะมีความชัดเจนในการขายที่ดินของ PF ย่านรามอินทรามูลค่าราว 2 พันล้านบาท และที่ดินของ บมจ.วีรีเทล (WR) ย่านรัชดาภิเษก มูลค่า 3.6 พันล้านบาท รวมถึงอยู่ระหว่างการพิจารณานำโรงแรม ไฮแอท รีเจนซีท สุขุมวิท มูลค่า 4.5 พันล้านบาท ขายเข้ากองรีท หรือขายให้กับผู้ที่สนใจซื้อ โดยคาดว่าจะชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลังเช่นกัน ซึ่งจะส่งผลต่อรายได้เสริมเข้ามา

ด้านยอดขายของบริษัทคาดว่าจะเห็นการปรับตัวสูงขึ้นในช่วงไตรมาส 3/65 และไตรมาส 4/65 ตามลำดับ เพราะจะมีการเปิดโครงการใหม่ 9 โครงการ มากกว่าครึ่งปีแรกที่เปิดตัวไป 4 โครงการ โดยยอดขายครึ่งปีแรกอาจจะทรงตัวหรือต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อย จากการแข่งขันในตลาดบ้านแนวราบที่รุนแรงขึ้น ประกอบกับ กำลังซื้อเพิ่งฟื้นตัวกลับมาอีกครั้ง โดยในไตรมาส 1/65 บริษัทมียอดขายได้ 3.6 พันล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปีที่ 1.85 หมื่นล้านบาท

ส่วนธุรกิจผลิตถุงมือยางภายใต้แบรนด์ GGG บริษัทได้มีการปรับแผนการติดตั้งเครื่องจักรในการผลิตลดลงมาเป็น 8 ไลน์การผลิต จากแผนเดิมจะติดตั้งครบ 16 ไลน์การผลิตในปีนี้ เพราะปัจจุบันสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลายลง แม้ยังมีความต้องการใช้ถุงมือยางอยู่มากแต่ก็ลดลงจากช่วงก่อนหน้านี้ และมีซัพพลายในตลาดเข้ามาจากผู้ผลิตรายอื่นเพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทมีการปรับแผนงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ทำให้คาดว่ารายได้จากธุรกิจถุงมือยางในปีนี้จะลดลงมาที่ 879 ล้านบาทจากเดิมที่คาดว่าจะสูงกว่านี้ แต่ไม่ได้กระทบต่อเป้าหมายการดำเนินงานของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ