นายองอาจ สิงห์ลำพอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น เบสท์ไลฟ์ จำกัด ผู้บริหารสถานีช่อง JKN18 กล่าวว่า ทิศทางการดำเนินงานช่อง JKN18 ปีนี้จะใช้กลุทธ์เนื้อหารายการ (Content Marketing Strategy) ที่มีแผนพัฒนาสร้างสรรค์คอนเทนต์ให้หลากหลาย โดยรักษาสัดส่วนเนื้อหารายการข่าว 25% ซีรีส์อินเดีย 25% สารคดีสัตว์โลก 20% ซูเปอร์โชว์วาไรตี้ 20% ภาพยนต์และซีรีส์ดังต่างประเทศ 10%
พร้อมสื่อสารการสร้างแบรนด์เนื้อหารายการ เพื่อขยายฐานกลุ่มผู้ชมไปสู่ระดับ MASS อย่างต่อเนื่อง หลังจากไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ช่อง JKN18 สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ชมเพิ่มขึ้น 54% และได้รับความนิยมจากผู้ชมเพิ่มขึ้นถึง 68% เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 4 ของปีก่อน ส่งผลให้มีเรตติ้งขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 14
JKN18 ตั้งเป้าที่จะให้เรตติ้งขึ้นมาติดอันดับ Top10 สถานีทีวีดิจิทัลที่ได้ครองใจผู้ชมคนดู โดยปรับผังรายการเพิ่มเนื้อหาคอนเทนต์ให้หลากหลายเชื่อมโลกสาระและบันเทิงให้แก่คนไทย ทั้งกองทัพรายการข่าวช่องJKN18 ที่จะเคียงข้างผู้ชม และอัพเดททุกประเด็นข่าวร้อน เรื่องที่คนไทยต้องรู้ ตั้งแต่ 06:00-00:00 น. และคอนเทนต์ข่าวจาก JKN-CNBC ภายใต้มาตรฐานการผลิตระดับโลก ตอกย้ำการเป็นสถานีข่าวเศรษฐกิจชั้นนำ รวมถึงเพิ่มเนื้อหารายการกีฬามวย 5 วัน/สัปดาห์ รายการวาไรตี้ Project Runway Thailand
อีกทั้งความบันเทิงกับกองทัพภาพยนต์ฮอลลีวูด และซีรีส์จากต่างประเทศให้ผู้ชมได้รับชมทางช่อง JKN18 และผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ทุกช่องทางเพื่อขยายฐานกลุ่มผู้ชมกลุ่มใหม่ๆเพิ่มเติม รองรับเม็ดเงินโฆษณาทั้งสื่อหลักและสื่อออนไลน์ปรับตัวดีขึ้น โดยรายได้ของช่อง JKN18 กว่า 70% มาจากบริษัทภายในกลุ่มของ JKN ส่วนที่เหลืออีก 30% มาจากกลุ่มลูกค้าภายนอกบริษัท ในการรับจ้างผลิตรายการและสื่อออนไลน์
นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป (JKN) กล่าวว่า จากแผนยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจของ JKN ที่มีเป้าหมายมุ่งสู่การเป็นบริษัทผู้นำด้าน Content Commerce ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่จะใช้จุดแข็งจากการเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์คอนเทนต์แบรนด์ชั้นนำทั่วโลกมาเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตให้แก่กลุ่มธุรกิจ Commerce
โดย JKN18 เป็นจิ๊กซอว์ทางธุรกิจที่สำคัญของกลุ่ม JKN ในการเป็นช่องทางการสื่อสารการตลาดถึงคุณภาพผลิตภัณฑ์สินค้าในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ไปยังกลุ่มผู้ชมโดยตรง (D2C) ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างประสบการณ์การเลือกซื้อสินค้า สอดรับจังหวะเศรษฐกิจฟื้นตัวและรับพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภคในยุค New Normal เพื่อผลักดันการเติบโตของกลุ่มธุรกิจ Commerce ไปสู่เป้าหมาย 300 ล้านบาทในปีนี้