พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น คาดยื่นไฟลิ่ง Q3/65 ขาย IPO-เข้าตลาดหุ้นก่อนสิ้นปีนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 26, 2022 15:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวจตุพร วิไลแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด ผู้ให้บริการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรในเครือ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมยื่นไฟลิ่งให้แก่สำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ภายในช่วงไตรมาส 3/65 เพื่อเตรียมเสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) และคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ภายในไตรมาส 4/65

การเสนอขาย IPO และนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่เข้าเสริมสร้างความแข็งแกร่งและเพิ่มศักยภาพรองรับเติบโต โดยเฉพาะแผนการขยายงานบริการต่างๆ แบบครบวงจรทั้ง B2B และ B2C ครอบคลุมตั้งแต่ก่อนสร้างบ้าน ไปจนถึงการลงทุนบ้านหลังที่ 2 ประกอบกับจุดแข็งที่พร้อมเจาะตลาดของบริษัท พร้อมกับโอกาสในการขยายงานบริการใหม่ๆเข้ามาเสริมเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

บริษัทวางเป้าหมายรายได้เติบโตอีก 2-3 เท่าภายในปี 68 จากปี 64 ที่มีรายได้กว่า 489 ล้านบาท โดยในปีนี้คาดว่าจะเติบโต 25-30% จากปีก่อน จากการที่บริษัทยังคงเดินหน้าขยายงานในส่วนของธุรกิจบริหารจัดการอาคาร ดำเนินการโดย บริษัท พรีโม แมเนจเม้นท์ จำกัด (Primo Management) และบริษัท คราวน์ เรสซิเดนซ์ จำกัด (Crown Residence) รับบริหารจัดการนิติบุคคลอาคารชุด บ้านจัดสรร อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า ดูแลคุณภาพชีวิตของลูกบ้านระหว่างการพักอาศัยทั้งในระดับโครงการทั่วไปจนถึงระดับลักชัวรี ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักของบริษัท

ปัจจุบันบริษัทรับบริหารโครงการอาคารชุดพักอาศัยรวม 55 โครงการ หรือมากกว่า 30,000 ครอบครัว โดยที่เป็นโครงการภายใต้เครือ ORI 60% และโครงการของผู้ประกอบการรายอื่น 40% และในปีช่วงที่ผ่านมายังได้รับความไว้วางใจจากผู้ประกอบการนอกเครือ ORI ให้บริหารคอนโดมิเนียมหรูย่านสุขุมวิทเพิ่มเข้ามาในพอร์ตอีก 3 โครงการ และบริษัทยังคงเดินหน้าในการขยายงานบริหารอาคารชุดพักอาศัยต่อเนื่อง

ขณะที่งานธุรกิจบริหารงานโครงการและบริหารงานก่อสร้าง โดย บริษัท ยูไนเต็ด โปรเจคต์ แมเนจเมนท์ จำกัด (United Project Management หรือ UPM) ให้บริการบริหารงานโครงการและบริหารงานก่อสร้างให้แก่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และโครงการก่อสร้างภาครัฐ ยังคงได้รับความไว้วางใจในการให้บริการจากผู้ประกอบการรายใหญ่ต่างๆที่เข้ามาใช้บริการ เช่น บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) และบิ๊กซีทั้งโครงการใหม่และโครงการปัจจุบัน ทำให้เป็นปัจจัยช่วยหนุนการเติบโต และสร้างความมั่นใจในศักยภาพให้กับบริษัท

สำหรับกลุ่ม Living & Earning Services ให้บริการแก่ผู้อยู่อาศัยที่ต้องการได้รับประโยชน์จากอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติม เช่น ผลตอบแทนจากการลงทุนคอนโดมิเนียม เซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ ความรู้ด้านการตลาดอสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วย ธุรกิจรับจ้างบริหารโรงแรมและที่อยู่อาศัย โดย บริษัท แฮมป์ตัน โฮเทล แอนด์ เรสซิเดนซ์ แมเนจเมนท์ จำกัด ดำเนินงานบริหารจัดการสินทรัพย์ (Asset Management) ช่วยบริหารจัดการผู้เช่าหรือผู้เข้าพัก สร้างรายได้หรือผลตอบแทนให้เป็นไปตามเป้าหมายของเจ้าของโรงแรมหรือที่พักอาศัย ร่วมวางแผนตกแต่ง จัดหาบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้เช่าหรือผู้เข้าพัก เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้แก่ผู้เข้าพัก ปัจจุบันมีการบริหารห้องพักอาศัยในโครงกทรที่เป็นแบรนด์แฮมป์ตัน และเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์รวมกว่า 3,000 ห้อง

"ด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่นจะเป็น Living Partner เราวาดผัง Customer Journey ของผู้บริโภคที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยออกมา ว่าตลอดเส้นทางของการมีบ้าน เขาจะต้องเจอกับบริการอะไรบ้าง แล้วพาตัวเรา พาทีมงานมืออาชีพในแต่ละประเภทธุรกิจ เข้าไปปลั๊กอินในบริการเหล่านั้น ให้บริการทั้งผู้บริโภค ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และผู้เกี่ยวข้องในอีโคซิสเท็ม จนทำให้วันนี้ เราสามารถขยายขอบเขตการบริการของพรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น ให้ครอบคลุมตั้งแต่ Day1 ก่อนสร้างบ้าน ไปจนถึงวันที่ผู้บริโภคเริ่มลงทุนบ้านหลังที่ 2 เราเชื่อมั่นว่าการเติบโตของเรา จะช่วยให้เราเป็น Living Partner ที่ดูแลผู้บริโภคได้แบบ One-Stop Service สอดคล้องกับแนวคิด At Your Service Every Moment" นางสาวจตุพร กล่าว

นางสาวจตุพร กล่าวถึงสถานการณ์ธุรกิจบริการอสังหาริมทรัพย์ว่า มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องตามทิศทางของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยในช่วงปีนี้กลุ่มธุรกิจที่มีแนวโน้มจะมีโอกาสเติบโตสูง คือ กลุ่ม Pre-Living หรือกลุ่มก่อนการอยู่อาศัย เนื่องจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายรายมีแผนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยกันในระดับ New-High มากขึ้นในรอบหลายปี ทำให้มีความต้องการที่ปรึกษาด้านการขาย ผู้บริหารงานโครงการก่อสร้าง ทีม Interior Design เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บ

ทั้งนี้ บริษัทจะใช้จุดแข็งใน 3 ด้านหลัก ประกอบด้วย 1. ความเข้าใจพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ 2. ความพร้อมการบริการครบวงจรแบบ One-Stop Service และ 3. ความเชี่ยวชาญของพนักงานบริการในแต่ละประเภทธุรกิจ เข้าแข่งขันกับตลาดทั้งฝั่ง B2B และ B2C ในช่วงนับจากนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ