(เพิ่มเติม) PR124 เผยสิงคโปร์ทาบร่วมธุรกิจที่ปรึกษา/บ.นอกตลาดจีบถือหุ้นหวังทำแบ็คดอร์

          บมจ.124 คอมมิวนิเคชั่นส (PR124)เปิดเผยว่า บริษัทมีกำหนดจะหารือกับพันธมิตรด้านที่ปรึกษาการลงทุนขนาดใหญ่จากสิงคโปร์สนใจมาเยี่ยมชมกิจการในวันพรุ่งนี้ พร้อมทั้งจะมีการศึกษาความเป็นไปได้ที่จะร่วมมือด้านธุรกิจในการเป็นที่ปรึกษาและดูแลงานประชาสัมพันธ์ให้กับลูกค้าของเที่อยากจะมาลงทุนในไทย
          "ธุรกิจก็ต้องขยาย ถ้าเรามีเพื่อนมากขึ้น ทางนั้นก็ happy บริษัทเราก็ความเสี่ยงต่ำ หาพันธมิตรที่ดีที่สุดของแต่ละประเทศ"นายนิมิตร หมดราคี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PR124 กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
          โอกาสความร่วมมือดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากบริษัทได้ลงนามเป็นพันธมิตรกับกลุ่ม eacon ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาด้านกิจกรรมระหว่างประเทศด้านเศรษฐกิจการค้าและการเมืองชั้นนำของยุโรป (European Affairs Consulting Group )เพื่อห้คำปรึกษากับผู้ประกอบการจากกลุ่มสหภาพยุโรป(EU)ที่สนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย และนักธุรกิจจากไทยที่ทำธุรกิจกับประเทศกลุ่ม EU 
          นายนิมิตร คาดว่า ในปี 51 บริษัทจะทำรายได้จากธุรกิจที่ปรึกษาลงทุนสูงขึ้นจาก 20 ล้านบาทในปี 50 หรือมีสัดส่วนรายได้สูง
กว่า 15-16% จากรายได้รวม ซึ่งตั้งเป้าไว้ว่าในปีนี้รายได้รวมจะเติบโต 10% เนื่องจากมีงานภาครัฐเข้ามาเพิ่มสัดส่วนขึ้นเป็น 55-60% จากเดิมอยู่ในระดับ 50:50 เมื่อเทียบกับงานภาคเอกชน
          ระหว่างนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการรอผลประมูลงานภาครัฐอีก 3 โครงการ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเซ็นสัญญารับงานอย่างน้อย 2 โครงการในเดือน เม.ย.นี้
          "ปีนี้งานภาครัฐจะเยอะขึ้น ซึ่งที่เรารอผลอยู่ 3 งานน่าจะได้ทั้งหมด คาดว่าจะเซ็นสัญญาในเดือนเมษานี้ 2 งาน....ปีนี้ดีกว่าปีที่แล้ว ปีที่แล้วบัดซบ ช่วยไม่ได้ โชคดีที่เราลุยตั้งแต่ปีที่แล้วเพียงงบประมาณไม่ออกมา แต่ผลจากการทำงานหนักที่เราทำมาก็มาส่งผลในปีนี้หลังมีการเปลี่ยนรัฐบาล แต่ถ้าปีที่แล้วเรานั่งเฉยๆแล้วมาเริ่มใหม่ปีนี้ก็คงไม่ทัน"นายนิมิตร กล่าว
*ธุรกิจนอกตลาดรุมจีบขอถือหุ้น คาดเลือกเหลือรายเดียวใน Q2/เมินข้อเสนอ D1
          นายนิมิตร ยังเปิดเผยว่า ขณะนี้มีบริษัทเอกชนนอกตลาดหลักทรัพย์ 2 รายเสนอตัวขอเข้าถือหุ้นใน PR124 ซึ่งคาดว่าบริษัทจะคัดเลือกเหลือ 1 รายภายในไตรมาส 2/51 
          "ผมจะดูว่าบริษัทที่จะมาหาผมหลักการพอจะคุยกันได้ โตด้วยกันได้ จูงมือกันไปเพื่อทำให้เรามีมูลค่ามากขึ้น ผมก็จะเอาไปคุยกับที่ปรึกษาทางการเงินผมว่าอะไรคุ้มไม่คุ้ม เราเพิ่งเริ่มยก 1 อาจจะเป็นความโชคดีที่เราเนื้อหอม เพราะไซส์เราเล็ก ระบบบัญชีง่ายเพราะอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ หนี้ไม่มี เงินสดก็มี ใครๆก็อยากได้ ใครๆก็อยากจะ Backdoor...เราจะเลือกเหลือ 1 ราย"นายนิมตร กล่าว
          ขณะที่ข้อเสนอซื้อหุ้นจาก บมจ. ดราก้อนวัน (D1)นั้น คิดว่าคงปฏิเสธแน่นอน เพราะรับไม่ได้กับแผนงานที่จะมีการปรับเปลี่ยนแนวธุรกิจไปจากเดิม
          "กับ D1 เคยเป็นลูกค้ากัน ข่าวที่ออกมาผมไม่รู้เรื่องเลย ผมไม่โกรธ เพราะมันไม่ใช่ความจริง ถามว่าเคยคุยกันมั้ย เคย...มีข้อเสนอมาให้ เช่น เพิ่มทุนให้ แต่ผมบอก เราเป็นเพื่อนกันคุยได้ แต่ไม่ใช่ว่าซื้อเราแล้วเอาไปขายทิ้ง หรือเปลี่ยนธุรกิจ แล้วเรารับเงินเข้ากระเป๋า...ยืนยันว่าที่ผ่านมายังไม่เคยมีการตกลงอะไรกันเลย"นายนิมิตร กล่าว