นางสาวนิตา ตรีวีรานุวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทาคูนิ กรุ๊ป (TAKUNI) เปิดเผยว่า บริษัทคาดผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2/65 จะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 1/65 ที่กำไรเติบโตถึง 54.32% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจบริการทดสอบและตรวจสอบด้านความปลอดภัยทางวิศวกรรมกลับมาเริ่มดำเนินการได้ตามปกติ และได้ขยายกลุ่มลูกค้าไปยังธุรกิจโรงไฟฟ้ามากขึ้น
นอกจากนี้บริษัทย่อย คือ บมจ.ซี เอ แซด (ประเทศไทย) (CAZ) ปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) แล้วกว่า 3,881 ล้านบาท ซึ่งเป็นงานที่มีมาร์จิ้นค่อนข้างสูง และบริษัทยังคงเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่ทั้งหมด 6 โครงการในกลุ่ม Oil & Gas ที่จะทยอยรู้ผลในช่วงที่เหลือของปีนี้ ทั้งจากโครงการที่ต่อเนื่องจากโครงการเดิม และโครงการใหม่ โดยบริษัทคาดหวังจะได้งานไม่ต่ำกว่า 60% ของมูลค่างานทั้งหมดที่เข้าประมูล
ในขณะเดียวกัน TAKUNI จะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท เอ็กซ์แซคท์ เรียลเอสเตท จำกัด ซึ่ง TAKUNI ถือหุ้นในสัดส่วน 40% และบริษัท เอซ เอสเตท กรุ๊ป จำกัด ในสัดส่วน 60% โครงการแรกมีมูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท โดยปัจจุบันมียอดขายแล้วจำนวน 78 ยูนิต จากทั้งหมด 95 ยูนิต คาดจะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงไตรมาส 2/65 นี้ราว 10 ยูนิต
"หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลายมาอย่างต่อเนื่อง เป็นส่วนช่วยหนุนให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว การลงทุนกลับมามากขึ้น การดำเนินโครงการต่างๆทำได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้ทิศทางผลประกอบการมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา"นางสาวนิตา กล่าว