นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทีวี ไดเร็ค (TVD) เปิดเผยว่า การเข้าลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคริปโทฯ และระบบที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัล เป็นแผนงานส่วนหนึ่งในการทรานส์ฟอร์มธุรกิจของ TVD ให้ปรับตัวได้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และเสริมประโยชน์จากการใช้ระบบที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัลในการทำการตลาด และส่งเสริมการนำเสนอสินค้าและบริการต่างๆ ซึ่งเป็นแผนในการพลิกฟื้นธุรกิจของบริษัทให้พลิกกลับมาเป็นบวกได้อีกครั้ง หลังจากที่ผ่านมาเผชิญกับความท้าทายเข้ามาค่อนข้างมาก
บริษัทวางงบลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคริปโทฯ ไว้ที่ 80 ล้านบาท ซึ่งในช่วงแรกจะใช้เงินลงทุนราว 53 ล้านบาทใน 3 ส่วน ได้แก่ ซื้อเครื่องขุด Bitcoin จำนวน 25 เครื่อง กำลังการขุดราว 0.001 BTC/วัน โดยบริษัทเตรียมสถานที่และกำลังผลิตไฟฟ้าที่ได้รับการอนุญาต ซึ่งได้รับอัตราค่าไฟในราคาที่ถูก รวมถึงจะมีการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปเพื่อเสริมกำลังการใช้ไฟฟ้าในการรองรับการขุดเหมือง Bitcoin คาดว่าจะเริ่มได้ในช่วงไตรมาส 3/65
รวมทั้งการลงทุนเข้าเป็นสมาชิก Node Validator ของ Bitkub ซึ่งบริษัทได้เข้าทำสัญญาซื้อเหรียญ KUB Coin ที่ราคา 104.26 บาท/เหรียญ จำนวน 125,000 เหรียญ ใช้เงินทุนราว 13 ล้านบาท โดยบริษัทมั่นใจว่าเป็นราคาที่ต่ำและมีความเหมาะสม แม้จะยังมีความเสี่ยงด้านความผันผวนของราคาเหรียญอยุ่บ้าง แต่บริษัทได้ทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงรองรับในระดับ 12% หรือจำนวน 15,000 เหรียญ โดยรองรับราคาลดลงมาได้ต่ำสุดถึง 90 บาท และมีระยะเวลาสัญญา 1 ปี
นายทรงพล กล่าวว่า การเข้าลงทุนใน Node Validator ของ Bitkub ไม่ได้คาดหวังการเก็งกำไร แต่มองประโยชน์ในการต่อยอดเข้ามาเสริมด้านการทำการตลาด ในการออกเหรียญ หรือ NFT ให้แก่ลูกค้า หรือการทำกิจกรรมทางการตลาดในแคมเปญต่างๆ และโอกาสการเข้าสู่ Metaverse
ส่วนงบลงทุนอีก 15 ล้านบาท จะใช้ในการลงทุนระบบ Proof of stake เพื่อรองรับ Node Validator ของ Bitkub โดยจะเริ่มดำเนินการในช่วงไตรมาส 3/65 ทั้งหมด
ขณะเดียวกัน บริษัทได้ปรับธุรกิจบริษัท ทีวีดี เอ็ม จำกัด (TVD M) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัทในการขายสินค้าผ่านช่องทีวีดาวเทียม จะเปลี่ยนมาเป็นธุรกิจที่ดูแลการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชนและคริปโทฯ และจะมีการจัดตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาดูแลงานในส่วนการขายสินค้าแทน TVD M พร้อมกับจัดตั้งบริษัท Xpresso มาดูแลในส่วนของงานที่เกี่ยวข้องกับบริการจัดส่งสินค้า และยังมีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับโบรกเกอร์ขายประกัน และธุรกิจบริการสั่งอาหารที่ร่วมกับพันธมิตร คือ abpo ซึ่งจะเข้ามาเป็นส่วนเสริมธุรกิจของ TVD
การเปลี่ยนธุรกิจของ TVD เป็นรูปแบบ Holding คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 3/65 และจะเริ่มเห็นการดำเนินธุรกิจใหม่ๆเข้ามาเสริมที่ชัดเจน โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคริปโทฯ ซึ่งบริษัทคาดว่าธุรกิจดังกล่าวจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการพลิกฟื้นภาพรวมของธุรกิจให้กลับมาเติบโตในระยะยาวได้อย่างมั่นคง คาดว่าจะใช้ระยะเวลาราว 6 เดือนหลังจากไตรมาส 3/65 ที่จะเริ่มเห็นความชัดเจนของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคริปโทฯที่เริ่มเห็นผลบวกต่อธุรกิจอย่างชัดเจน
"ที่ผ่านมา TVD ผ่านความท้าทายมาค่อนข้างมาก โดน Disrupt หลายรูปแบบ ทำให้เราล้มลุกคลุกคลานมา แต่ส่วนหนึ่งที่เราได้รับความไว้วางใจจากผู้ถือหุ้นในการเพิ่มทุนเข้ามามีเงิน 815 ล้านบาทเข้ามา ทำให้เราสามารถเริ่มต้นกลับมาสู้ต่อได้ รวมกับทีมคณะกรรมการและผู้บริหารในโครงสร้างใหม่ของ TVD ที่จะเข้ามาเสริมความแข็งแกร่ง และสร้างการเติบโตของ TVD ในยุคใหม่อย่างต่อเนื่อง" นายทรงพล กล่าว