บมจ.อาร์ ซี แอล (RCL) แต่งตั้ง นายสุเมธ ตันธุวนิตย์ ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร และ นายทวินโชค ตันธุวนิตย์ ขึ้นเป็นกรรมการผู้จัดการคนใหม่
ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา RCL ได้พัฒนาการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพและเตรียมความพร้อมเพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคแห่งดิจิทัลเต็มรูปแบบ ซึ่งในปี พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมาทางบริษัทได้จัดทำแผนกลยุทธ์เพื่อการเติบโตทางธุรกิจ และเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าในยุค New Normal รวมทั้งสร้างมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างมั่นคงและยั่งยืน ภายใต้การนำของนายสุเมธ
นายสุเมธ จบการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาวิศกรรมศาสตร์ (เกียรตินิยม) จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ปริญญาโทวิศวกรรมศาสตร์จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง RCL ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2523 ต่อมาได้นำบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในปี 31 และแปลงสภาพเป็นบริษัทมหาชน จำกัด ในปี พ.ศ. 2536
และ คณะกรรมการแต่งตั้ง นายทวินโชค ตันธุวนิตย์ เป็นกรรมการผู้จัดการของกลุ่ม RCL แทนนายสุเมธ โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.65 เป็นต้นไป และต่อจากนี้นายทวินโชค จะสืบสานเจตนารมณ์และความสำเร็จดังกล่าวให้ก้าวไกลยิ่งขึ้น อีกทั้งจะขับเคลื่อนการปรับปรุงกองเรือและระบบปฎิบัติการให้ทันสมัย เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและให้บริการในยุคดิจิทัลนี้
นายทวินโชคจบการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมศาสตร์ และ ปริญญาโทสาขาวิศวกรรมชีวการแพทย์วิทยาศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์ประยุกต์ Aachen Julich, ประเทศเยอรมนี ได้เริ่มเข้ามามีบทบาทใน RCL ในปี 58 ด้วยตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาด ต่อมาในปี 61 ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการอาวุโส (งานภูมิภาคและพัฒนาธุรกิจกลุ่ม)
ประสบการณ์ตลอด 7 ปีที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในงานระดับการจัดการและบริหาร นายทวินโชคได้ขยายเส้นทางการให้บริการและเพิ่มจำนวนกองเรือ รวมถึงการดำเนินการปรับแผนและขั้นตอนการดำเนินงานให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตลาดที่มีความผันผวน และยังเป็นผู้นำทีมพัฒนาระบบการปฏิบัติการของบริษัทให้มีประสิทธิภาพ โดยการนำวิทยาการโรโบติกส์ การจัดการข้อมูลและการวิเคราะห์และเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์ทำให้สามารถบริหารต้นทุนได้ดีมีประสิทธิภาพดีขึ้นและเพื่อพนักงานสามารถทำงานที่มีความสำคัญและซับซ้อนได้มากยิ่งขึ้น
จากประสบการณ์ที่ได้สั่งสมมานี้ ทางคณะกรรมการบริษัทจึงมอบหมายให้นายทวินโชคกรรมการผู้จัดการคนใหม่เป็นผู้นำแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจดังกล่าวไปดำเนินการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของกองเรือให้มีความทันสมัยทัดเทียมนานาชาติ ขยายเครือข่ายการให้บริการให้มีความครอบคลุมและแข็งแกร่ง รวมทั้งนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาประยุกต์ให้เกิดประสิทธิผลสูงสุดในการพัฒนาธุรกิจของบริษัทให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป