ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (19 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในวาณิชธนกิจและสถาบันการเงินของสหรัฐอาจฉุดรั้งให้เศรษฐกิจถดถอยเร็วขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมีข่าวว่าวาณิชธนกิจเมอร์ริล ลินช์ อาจปรับลดมูลค่าทางบัญชีลงอีก นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มพลังงาน ซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันดิบและราคาทองคำทรุดตัวลงอย่างหนัก
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วง 293.00 จุด หรือ 2.36% แตะระดับ 12,099.66 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดลดลง 32.32 จุด หรือ 2.43% แตะระดับ 1,298.42 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดรูดลง 58.30 จุด หรือ 2.57% แตะระดับ 2,209.96 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.97 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 2 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 2.33 พันล้านหุ้น
จอร์จ ชิพ นักวิเคราะห์จากบริษัทสก็อตต์ แอนด์ สตริงเฟลโลว์ กล่าวว่า "นักลงทุนส่วนใหญ่วิตกกังวลเมื่อมีข่าวลือว่าเมอร์ริล ลินช์ อาจต้องปรับลดมูลค่าทางบัญชีลงอีก หลังจากเมอร์ริล ลินช์ ยื่นฟ้องบริษัทซิเคียวริตีส์ แคปิตอล อินชัวรันส์ ที่ยังค้างชำระหนี้กับเมอร์ริล ลินช์อยู่ 3.1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนมองว่ายังมีสถาบันการเงินอีกหลายแห่งที่ยังไม่ฟื้นจากปัญหาสภาพคล่อง นอกจากนี้ การดำเนินการของเมอร์ริล ลินช์ สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทไม่มีการปกป้องเพียงพอในเรื่องการลงทุน"
"นอกเหนือจากข่าวเมอร์ริล ลินช์แล้ว หุ้นกลุ่มพลังงานและเหมืองแร่ร่วงลงเนื่องจากราคาทองและราคาน้ำมันปรับตัวลดลง ซึ่งปัจจัยลบที่รุมเร้าตลาดเช่นนี้ทำให้นักลงทุนยังไม่ต้องการเสี่ยงเข้าลงทุน และเลือกที่จะปลีกตัวออกไปตั้งหลักอยู่นอกตลาด ทั้งๆที่เมื่อวันก่อน ตลาดทะยานขึ้นกว่า 400 จุดรับข่าวเฟดลดดอกเบี้ยและผลประกอบการที่ดีเกินคาดของโกลด์แมน แซคส์ และเลห์แมน บราเธอร์ส" ชิพกล่าว
ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กร่วงลง 4.94 ดอลลาร์ แตะระดับ 104.48 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงสุดนับตั้งแต่ปี 2544 ขณะที่ราคาทองคำร่วงลง 59 ดอลลาร์ แตะระดับ 945.30 ดอลลาร์
การร่วงลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งสองประเภทได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง โดยหุ้นเอ็กซอนโมบิล ดิ่งลง 4.6% หุ้นเชฟรอนร่วงลง 4.9% หุ้นอัลโคซึ่งเป็นผู้ผลิตอลูมิเนียม ร่วงลง 7.7% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์รูดลง 6%
ส่วนหุ้นกลุ่มการเงินเคลื่อนตัวผันผวนเนื่องจากข่าวเมอร์ริล ลินช์ส่อเค้าปรับลดมูลค่าทางบัญชีอีก โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ดิ่งลง 5.2% หุ้นเลห์แมน บราเธอร์ส ร่วงลง 9.2% หุ้นเมอร์ริล ลินช์ ร่วงลง 11.1% แต่หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ดีดขึ้น 59 เซนต์ แตะระดับ 43.45 ดอลลาร์ หลังจากมอร์แกน สแตนลีย์ เปิดเผยตัวเลขกำไรที่สูงเกินคาด
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--