ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,647.67 จุด ลดลง 12.34 จุด (-0.74%) มูลค่าการซื้อขาย 57,875.88 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ดัชนีปรับตัวลดลงและเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นในภูมิภาค โดยดัชนีขึ้นไปทำระดับสูงสุด 1,658.05 จุด และลงไปต่ำสุดที่ 1,645.89 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 464 หลักทรัพย์ ลดลง 1,240 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 521 หลักทรัพย์
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลดลงตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ มองเป็นการพักตัวหลังปรับขึ้นมาค่อนข้างมาก โดยตลาดกลับมากังวลการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หลังทิศทางอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งอาจส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวได้ และยังมีแรงขายลดความเสี่ยงก่อนเข้าสู่วันหยุดยาวของตลาดหุ้นไทย
นอกจากนั้น ยังมีปัจจัยของราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงมาก่อนการประชุมโอเปคพลัส จากความกังวลเกี่ยวกับแผนการเพิ่มกำลังการผลิตของสมาชิกในกลุ่ม หลังจากตัดรัสเซียออกจากส่วนหนึ่งของแผน หลังสหภาพยุโรป (EU) แบนการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ซึ่งทำให้เป็นแรงกดดันต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน และกดดันดัชนีตลาดหุ้นไทย
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้าคาดว่ายังคงแกว่งตัวไซด์เวย์ ปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตามในคืนวันพรุ่งนี้ (3 มิ.ย. 65) คือ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ และสัปดาห์หน้าต้องติดตามการกระชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ว่าจะมีมุมมองหรือจะส่งสัญญาณต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างไร หลังจากที่อัตราเงินเฟ้อไทยปรับขึ้นมาในระดับสูง
ให้แนวต้านที่ 1,655-1,660 จุด แนวรับ 1,635-1,640 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,636.48 ล้านบาท ปิดที่ 12.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 2,408.02 ล้านบาท ปิดที่ 25.75 บาท ลดลง 0.50 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,031.42 ล้านบาท ปิดที่ 166.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
THG มูลค่าการซื้อขาย 1,890.83 ล้านบาท ปิดที่ 63.75 บาท ลดลง 9.25 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,313.88 ล้านบาท ปิดที่ 65.00 บาท ลดลง 1.00 บาท