เครือ SCC เซ็นร่วมทุนปิโตรเคมีในเวียดนาม คาดลงทุน 3.5-4.0 พันล้านดอลล์

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 20, 2008 09:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          บมจ. ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) แจ้งว่า เมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา ได้มีการลงนามในสัญญาร่วมทุนระหว่าง SCC, Vietnam Oil and Gas Group (Petrovietnam) และ Vietnam National Chemical Corporation (Vinachem) เพื่อนำไปยื่นขอใบอนุญาตการลงทุนก่อสร้างโรงงานปิโตรเคมีระดับ World-scale แห่งแรกจากรัฐบาลประเทศเวียดนาม
โครงการนี้ SCC จะลงทุนผ่านบริษัทย่อย คือ Vina SCG Chemical Company Limited และ บมจ. ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ (TPC) รวมทั้งสิ้นร้อยละ 71 ในขณะที่ผู้ร่วมทุนอื่นๆ ในประเทศเวียดนามจะมีสัดส่วนการถือหุ้นที่เหลืออีกร้อยละ 29
โครงการปิโตรเคมีในเวียดนามนี้จะประกอบด้วยการผลิตผลิตภัณฑ์ดังนี้ โอเลฟินส์ซึ่งใช้แนฟทาเป็นวัตถุดิบในการผลิต กำลังการผลิต 1.65 ล้านตันต่อปี, โพลิโอเลฟินส์ กำลังการผลิต 1.45 ล้านตันต่อปี, คลอร์ อัลคาไลน์ กำลังการผลิต 280,000 ตันต่อปี และ ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องกับ PVC คือ EDC กำลังการผลิต 330,000 ตันต่อปี และ VCM กำลังการผลิต 400,000 ตันต่อปี นอกจากนี้
ยังจะรวมถึงการก่อสร้างสาธารณูปโภค เช่น ท่าเรือ คลังสินค้า และโรงไฟฟ้าด้วย
อย่างไรก็ตามสำหรับเรื่องเงินลงทุนทั้งหมดของโครงการซึ่งคาดการณ์ในเบื้องต้นว่าจะมีมูลค่าประมาณ 3,500 - 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งเรื่องผลตอบแทนทางการเงินนั้น ยังจะต้องมีการสรุปผลและผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการของ SCC อีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ในปัจจุบัน SCC กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดเกี่ยวกับต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่สำคัญในการ
ตัดสินใจลงทุนในโครงการนี้
โครงการดังกล่าวจะเริ่มดำเนินการผลิตโดยแบ่งเป็น 2 ระยะ คือในปี 2554 จะเริ่มต้นดำเนินการผลิตผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ PVC เบื้องต้น ในขณะที่จะดำเนินการผลิตผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ PVC ในส่วนที่เหลือ โอเลฟินส์ และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ Downstream จะสามารถดำเนินการผลิตได้ในปี 2556
โครงการตั้งโรงงานปิโตรเคมีแห่งใหม่นี้จะตั้งอยู่ที่เกาะ Long Son ในจังหวัด Ba Ria Vung Tau ทางตอนใต้ของประเทศเวียดนาม และจะอยู่ติดกับโรงกลั่นน้ำมันแห่งที่ 3 ของประเทศเวียดนามซึ่งจะทำให้ทั้งสองฝ่ายได้รับประโยชน์ร่วมกันจากการนำผลิตภัณฑ์จากโรงกลั่นมาใช้เป็นวัตถุดิบบางส่วนของโครงการ นอกจากนี้คาดว่าโครงการดังกล่าวจะก่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกับอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่สำคัญของเวียดนามหลายประเภท เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ บรรจุภัณฑ์สินค้าอุปโภคบริโภค และ
อลูมิเนียม ซึ่งจะมีส่วนทำให้เศรษฐกิจของประเทศเวียดนามมี การเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ประเทศเวียดนามมีประชากรทั้งสิ้น 85 ล้านคนและมีปริมาณการใช้พลาสติกต่อคนค่อนข้างต่ำเพียง 17 กิโลกรัมต่อปี ซึ่งคาดว่าในอนาคตจะมีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วเครือซิเมนต์ไทย (SCG)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ