นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) (TOA) เปิดเผยว่า ยอดขายปี 65 จะสามารถเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 10% หลังจากที่บริษัทได้มีการปรับราคาจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้นในกลุ่มสินค้าสำ Decorative 8% และ Non-decorative 4% เพื่อที่จะให้สะท้อนต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มสูงจากผลกระทบจากสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน
นอกจากนี้กำลังซื้อฟื้นตัวได้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะในจังหวัดท่องเที่ยวที่กำลังซื้อมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวดีขึ้นเป็นปัจจัยหนุนให้กำลังฟื้นตัวด้วย ด้านผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์มีกลับมาเปิดตัวโครงการจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ยังเป็นโครงการแนวราบ
พร้อมกันนี้กลุ่มธุรกิจซื้อบ้านเก่ามาปรับปรุงเพื่อขายนั้นมีการเติบโตค่อนข้างมาก และ ส่วนใหญ่โครงการบ้านในเขตพื้นที่กรุงเทพฯมีอายุโครงการ 40-50 ปี ซึ่งถึงเวลาที่จะต้องมีการปรับปรุง ซึ่งสีเป็นการปรับปรุงที่ง่ายที่สุดในการปรับปรุงบ้านให้สวยใหม่ขึ้น
ทั้งนี้บริษัทยังคงต้องติดตามสถานการณ์ของเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจจะเป็นผลกระทบต่อภาพรวมของกำลังซื้อได้ แต่อย่างไรก็ตามหากภาพรวมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเห็นได้ชัด และ ประชาชนมีความเชื่อมั่นก็จะไม่เป็นผลกระทบมากนัก
"เบื้องต้นเราคาดว่ายอดขายจะมีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% แต่ยังไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน เนื่องจากราคาวัตถุดิบที่ยังคงมีความผันผวนค่อนข้างมาก แต่อย่างไรก็ตามหากราคาวัตถุดิบที่นิ่งขึ้นแล้ว จะมีการกลับมากำหนดเป้าหมายการเติบโตที่แน่ชัดอีกครั้ง โดยในปีนี้จะพยายามที่จะรักษามาร์จิ้นให้อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับช่วงไตรมาส 1/65 ที่ 29.29% และคาดหวังว่าในปี 66 จะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น"นายจตุภัทร์ กล่าว