นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาดัชนีของตลาดหุ้นทั่วโลกมีความผันผวนค่อนข้างมาก แม้ว่าจะไม่ได้มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติม แต่นักลงทุนอยู่ระหว่างรอทิศทางและข้อมูลต่าง ๆ รอบด้านให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
สำหรับมุมมองดัชนีตลาดหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่าจะได้รับปัจจัยหนุนหลักจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัว ซึ่งจะเข้ามาช่วยลดแรงกดดันจากต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะจากราคาพลังงาน แต่อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมาบริษัทจดทะเบียนของไทยยังคงสามารถปรับตัวได้ค่อนข้างดี สามารถบริหารจัดการทั้งในด้านยอดขาย และต้นทุนการผลิตได้
ขณะที่ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงในช่วงที่ผ่านมา เป็นปัจจัยหนุนในกลุ่มผู้ประกอบการที่เป็นผู้ส่งออกสินค้า ซึ่งจะช่วยให้ผลประกอบเติบโตอย่างรวดเร็ว และจะทำให้กลุ่มธุรกิจนั้นๆ มีผลกำไรที่สูงขึ้น แต่อีกด้านหนึ่งเป็นผลกระทบทางลบกับผู้ประกอบการที่เป็นผู้นำเข้าสินค้า โดยแนะนำว่าการประเมินผลกระทบจะต้องแยกเป็นรายกลุ่มธุรกิจ เพื่อให้เห็นภาพได้ชัดเจนมากกว่า
ด้านอัตราเงินเฟ้อของไทยที่มีการรายงานตัวเลขออกมาสูงขึ้นค่อนข้างมาก เปิดจากผลกระทบสงครามที่เกิดขึ้นระหว่างประเทศรัฐเซียและยูเครนที่ทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่อย่างไรก็ตามการพิจารณาทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีปัจจัยหลายด้านที่จะต้องนำมาพิจารณาทั้ง Demand-side และ Supply-side สภาพคล่อง รวมไปถึงทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจไทย