นายบัญชัย ครุจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สหไทย เทอร์มินอล (PORT) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจรายได้ปี 65 จะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 15% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,606.70 ล้านบาท หลังจากช่วงไตรมาส 1/65 ที่ผ่านมารายได้เติบโตแล้วกว่า 76% ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนมาจากภาพรวมของอุตสาหกรรมการเดินเรือในประเทศไทยเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น
ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2/65 บริษัทคาดว่าจะใกล้เคียงกับช่วงไตรมาส 1/65 ที่ผ่านมา รายได้ที่เพิ่มขึ้นจะมาจากรายได้จากบริการท่าเทียบเรือเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้น จากการให้บริการงานเรือบาร์จที่เพิ่มมากขึ้นจากการเปลี่ยนโหมดการขนส่งจากเรือฟิดเดอร์ระหว่างประเทศ สาเหตุจากตารางการเดินเรือระหว่างประเทศที่ยังคงมีการทำงานไม่เป็นปกติ ทำให้สายเดินเรือจำเป็นจะต้องปรับตารางการเดินเรือเข้าเทียบ เฉพาะท่าเรือแหลมฉบังแทนการเข้าเทียบท่าเรือแม่น้ำเจ้าพระยา
ทั้งนี้คาดว่าภาพรวมของปริมาณตู้คอนเทนเนอร์สำหรับขนส่งในปี 65 จะโตได้ราว 3-5% เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์ในประเทศต่างๆ โดยเฉพาะประเทศจีน รวมถึงผลกระทบจากส่งครามรัสเซีย-ยูเครน อีกทั้งค่าระวางเรือ หรือค่าเฟรต (freight) ยังคงอยู่ในระดับที่สูง ทั้งนี้ การเร่งขนส่งตู้คอนเทนเนอร์เปล่าโดยทางบกเข้ามา เพื่อให้เพื่อเพียงพอต่อความต้องการใช้บรรจุสินค้าเพื่อการส่งออก ซึ่งยังคงเป็นปัจจัยกดดันที่จะส่งกระทบต่อความสารถในการทำกำไรของบริษัทในปีนี้
สำหรับธุรกิจคลังสินค้าล่าสุดบริษัทได้เซ็นสัญญาให้เช่าพื้นที่ชั้น 5 ขนาดพื้นที่ 2,800 ตารางเมตร ภายในอาคารคลังสินค้าให้เช่า ขนาด 6 ชั้น กับลูกค้า 1 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงพื้นที่ คาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ภายในเดือน ก.ค. 65 ในขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาลงทุนขยายพื้นที่ห้องเย็นเพิ่ม เนื่องจากปัจจุบันบริษัทยังมีพื้นที่ให้เช่าเหลือภายในอาคารคลังสินค้าให้เช่า ขนาด 6 ชั้น จำนวน 2 ชั้น ขนาดพื้นที่รวมประมาณ 5,000-6,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับความต้องการที่ค่อนข้างสูง
นอกจากนี้บริษัทได้ตั้งงบลงทุนไว้ราว 160 ล้านบาท เพื่อที่จะใช้ในการลงทุนโครงการท่าเรือแห่งที่ 3 ใช้ปรับปรุงอาคารเดิม และใช้ในการพัฒนาโครงการต่างๆ ทั้งคลังสินค้า และพื้นที่ห้องเย็น