พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ด้านป้องกันปราบปราม (รองผบ.ตร.ปป.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ผอ.ศอ.ปส.ตร.) กล่าวว่า นับแต่วันที่ 9 มิ.ย.65 พืชกัญชาไม่ถือเป็นยาเสพติด และยกเลิกความผิดฐานผลิต นำเข้า หรือส่งออก มีไว้ในครอบครอง จำหน่ายมีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ หรือเสพพืชกัญชา รวมถึงการสูบ ก็ไม่ถือว่าเป็นความผิด
"การมีพืชกัญชาไว้ในครอบครอง หรือปลูกกัญชา ไม่ว่าจะมีจำนวนเท่าใด ก็ไม่มีความผิด แต่การมี ใช้ จำหน่าย สารสกัดจากกัญชาที่มีปริมาณสาร THC เกินกว่า 0.2% ไม่มีใบอนุญาต ไม่มีใบสั่งแพทย์ ไม่ผ่านการรับรองโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือเป็นสารสกัดจากกัญชานั้นมีแหล่งที่มาจากนอกราชอาณาจักร ยังถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย เมื่อตำรวจตรวจพบจะยังไม่ดำเนินคดีในทันที เนื่องจากไม่เป็นความผิดซึ่งหน้า ตำรวจจะต้องยึดสารสกัดนั้นส่งผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบหาค่าสาร THC สืบเสาะแหล่งที่มา ตรวจหลักฐานการขออนุญาต หากพบว่าผิดกฎหมาย จึงจะเรียกตัวมาแจ้งข้อกล่าวหา ดำเนินคดีภายหลัง" รอง ผบ.ตร. กล่าว
สำหรับการสูบกัญชา พล.ต.อ.รอย กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย.65 เป็นต้นไป การสูบกัญชาไม่มีความผิด แต่การสูบกัญชาในที่สาธารณะ รบกวนสิทธิผู้อื่น มีความผิดตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 โทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 25,000 บาท อย่างไรก็ตามการสูบกัญชาในที่สาธารณะ ยังไม่มีกฎหมายควบคุมโดยตรงเช่นบุหรี่ที่มี พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบควบคุมอยู่
รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า เมื่อกฎหมายยกเลิกความผิดของพืชกัญชา ผู้ต้องขังและผู้ต้องหาคดีกัญชา รวม 4,200 ราย จะได้รับการปล่อยตัวพ้นผิด โดยในส่วน สตช.ได้มีหนังสือสั่งการให้พนักงานสอบสวนทั่วประเทศสั่งไม่ฟ้องคดีเกี่ยวกับพืชกัญชาที่อยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน กรณีขออนุมัติศาลออกหมายจับแล้ว ให้ขอถอนหมายจับ แต่หากมีความผิดอื่นร่วมด้วยยังคงดำเนินการตามกฎหมายในข้อหาความผิดอื่นๆต่อไป
"นอกจากนี้ให้คืนทรัพย์สินของกลางในคดีพืชกัญชา รวมทั้งของส่วนตัวผู้ต้องหา ที่ยังมิได้มีการทำลาย หรือใช้ประโยชน์ หรือขายทอดตลาดตามคำพิพากษา ส่วนทรัพย์สินเกี่ยวเนื่องกับการกระทำในคดีเกี่ยวกับกัญชา ที่ตำรวจตรวจยึดหรืออายัดไว้แต่ยังไม่มีคำสั่งคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน หรือเลขาธิการ ป.ป.ส. ให้ยึดหรืออายัดไว้ชั่วคราว ให้แจ้งเจ้าของทรัพย์สินมารับคืนทั้งหมด" พล.ต.อ.รอย กล่าว