นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไซมิส แอสเสท (SA) เปิดเผยว่า กลยุทธ์ธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทยังคงมุ่งเน้นรายได้จากกลุ่มอสังหาฯ เป็นหลัก อาทิ โครงการห้องชุดพร้อมขายโซนสุขุมวิท โดยเน้นกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติที่ต้องการโลเคชั่นโครงการติดรถไฟฟ้าและมีบริการแบบ Branded residences และกลุ่มลูกค้านักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าที่ขายพร้อมผู้เช่าที่มีศักยภาพ
ประกอบกับเห็นการกลับมาของยอดขายโครงการสร้างเสร็จพร้อมโอนเดือนละ 200-300 ล้านบาท และจะมีการรับรู้รายได้ในกลุ่มอสังหาแนวราบจากโครงการ Monsane? Exclusive Villa Ratchapruek-Pinklao และจะมีรายได้ประจำในธุรกิจอื่นๆเข้ามามากยิ่งขึ้นทั้ง ประกอบด้วยกลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร ร้าน Cloud Kitchen กลุ่มธุรกิจบริหารสินทรัพย์ เป็นต้น
ทั้งนี้ เมื่อช่วงต้นปี 2565 บริษัทฯ ได้ทำการเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ Lanemark@Kasetsart TSH Station และโครงการ Monsane? Exclusive Villa Ratchapruek ? Pinklao ในส่วนของปลายปีบริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดตัวโครงการใหม่อีกจำนวน 4 โครงการ ได้แก่ Siamese Home@Phaholyothin-Rangsit , Siamese KIN Phase 2 , Siamese Talingchan และ Siamese Luxury Home @ Ratchapruek
"หลังจากตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศไทยมีอัตราลดลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ภาพรวมของเศรษฐกิจมีทิศทางที่ดีขึ้น อีกทั้งรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการและเปิดประเทศเมื่อวันที่ 1 พ.ค.ทำให้เริ่มมีการเดินทางท่องเที่ยวหรือเดินทางเพื่อธุรกิจเข้ามาในประเทศอย่างเป็นปกติแล้ว ซึ่งเป็นปัจจัยบวกเพิ่มเติมสำหรับบริษัท เนื่องจากมีคอนโดที่เป็นที่สนใจจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ จากทำเลที่ตั้งที่โดดเด่น อาทิเช่น โครงการ Landmark@MRTA Station ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจากจีน เนื่องจากเป็นแหล่ง New Chinatown และตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานเอกอัครราชฑูตจีน และยังมีโครงการห้องชุดพร้อมขายโซนสุขุมวิทที่เป็นที่นิยมจากนักท่องเที่ยวชาวยุโรปอีกด้วย ทั้งนี้ เราเชื่อมั่นว่า Demand ที่กลับมาจะส่งผลให้แนวโน้มอุตสาหกรรมกลับมาดีขึ้นและเป็นอีกเหตุผลที่ช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานของบริษัทให้สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง"
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวอีกว่า บริษัทคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปี 2565 อยู่ที่ประมาณ 4,500-4,900 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายได้จากโครงการสร้างเสร็จพร้อมโอนประมาณ 2,000-2,500 ล้านบาท จากโครงการแนวราบที่จะเริ่มโอนได้ปลายปีนี้ประมาณ 1,000 ล้านบาท โครงการที่จะสร้างเสร็จในไตรมาส 4 ได้แก่ โครงการพระราม 9 อาคาร C ประมาณ 1,000 ล้านบาท และที่เหลือมาจากธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
สำหรับความคืบหน้าธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ที่ SA ได้จัดตั้งบริษัทย่อย "ไซมิส แอสเทท แอนด์ เวลธ์ แมเนจเมนท์" หรือ SAM พร้อมดึงผู้บริหารมืออาชีพด้วยประสบการณ์ในวงการบริหารสินทรพัย์มากว่า 30 ปี เข้าร่วมงาน พร้อมวางแผนซื้อ NPA-NPL มาบริหารนั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตฯ เพื่อประกอบธุรกิจเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ คาดว่าจะได้รับการอนุมัตเร็วกว่าคาดการณ์ภายในเร็วๆนี้