ตลาดหลักทรัพย์ฯ ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,644.48 จุด เพิ่มขึ้น 7.59 จุด (+0.46%) มูลค่าการซื้อขายราว 46,670.13 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนบวก โดยทำระดับสูงสุด 1,646.44 จุด และระดับต่ำสุด 1,636.20 จุด
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการอาวุโสและนักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้น โดยกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และกลุ่มพลังงานนำตลาด ช่วยหนุนตลาดเช้านี้ โดยประเด็นต่อกลุ่มธนาคารฯ จากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติคงอัตราดอกเบี้ย แต่เสียงแตกโดยมี 4 เสียงเห็นคงอัตราดอกเบี้ยและ 3 เสียงเห็นควรขึ้นอัตราดอกเบี้ย ตลาดตีความการประชุมกนง.รอบหน้าในเดือนส.ค.ให้น้ำหนักปรับขึ้นดอกเบี้ยมากขึ้น ซึ่งปรับขึ้นเร็วกว่าคาด ขณะเดียวกันกลุ่มธนาคารฯ laggard จึงมีแรงเก็งกำไรเข้ามา และกนง.ยังปรับขึ้นจีดีพีไทยปีนี้ 3.3% จากเดิม 3.2% ก็เป็นแรงสนับสนุนกลุ่มธนาคารด้วย และกลุ่มพลังงานก็ได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นมาก ค่าการกลั่นสูงขึ้น ทำให้หุ้นต้นน้ำ และกลุ่มโรงกลั่น ปรับตัวขึ้น
อย่างไรก็ตามยังต้องติดตามต่อกับการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) วันนี้ (9 มิ.ย.)และตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ วันพรุ่งนี้ (10 มิ.ย.) ซึ่งหากย่อตัวลงตลาดก็จะผ่อนคลาย ส่งตลาดหุ้นสัปดาห์หน้ามีแรงเก็งกำไรเข้ามา แต่หากปรับตัวสูงขึ้นตลาดก็กลัว
ในช่วงบ่ายคาดว่าตลาดยังสามารถยืนแดนบวกได้จากโมเมมตัมจากกลุ่มแบงก์ที่ก่อนหน้าราคาลงมาลึกมาก และกว่าจะรู้ว่าปรับขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่รอไปถึงเดือนส.ค ให้แนวต้านไว้ที่ 1,650 จุด แนวรับที่ 1,630 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,150.71 ล้านบาท ปิดที่ 150.50 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 3,106.25 ล้านบาท ปิดที่ 134.50 บาท เพิ่มขึ้น 7.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,519.05 ล้านบาท ปิดที่ 113.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,162.34 ล้านบาท ปิดที่ 174.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,277.21 ล้านบาท ปิดที่ 15.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท