นายพิจิตต์ วิริยะเมตตากุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.โรงพยาบาลวิภาวดี (VIBHA) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/65 จะเติบโตดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากฐานที่ต่ำ แต่จะทำได้ใกล้เคียงเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/65 จากรายได้ของคนไข้ที่ไม่ได้เป็นโรคโควิด-19 คาดว่าจะเติบโตราว 10% และรายได้จากการให้บริการฉีดวัคซีน ขณะที่รายได้จากการรักษาโควิด-19 (ที่สามารถเบิกจ่ายได้) น่าจะลดลงบ้าง เนื่องจากรัฐบาลไม่ได้ชดเชยค่าใช้จ่ายให้กับคนไข้ที่เป็นกลุ่มสีเขียวหรือเหลืองแล้ว แต่ยังสามารถเก็บเงินได้ในกรณีที่คนไข้ประสงค์จะนอนโรงพยาบาล อีกทั้งส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมวิภารามน่าจะเข้ามาเพิ่มขึ้นด้วย
ส่วนแนวโน้มการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง บริษัทฯ คาดว่ารายได้จากคนไข้ปกติจะกลับมาดีขึ้น เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่น้อยลง และคนไข้ที่เป็นโควิด-19 หากรัฐบาลไม่ได้เบิกจ่ายแล้ว ก็น่าจะเก็บเงินสดได้ ส่งผลให้มีรายได้เข้ามาเพิ่มขึ้น ด้านเงินชดเชยจากรัฐบาลที่มาจากโควิด-19 คาดว่าจะลดลง และรายได้จากการให้บริการฉีดวัคซีน จะสิ้นสุดลงในไตรมาส 3/65 ประกอบกับส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมวิภาราม คาดจะลดลงตามจำนวนคนไข้โควิด-19 ที่ลดลง แต่ก็ยังต้องติดตามดูสถานการณ์อย่างต่อเนื่องว่าจะมีโรคระบาดชนิดอื่นอีกหรือไม่
ขณะเดียวกันบริษัทฯ เตรียมเปิดให้บริการคลินิกทางการแพทย์ เช่น คลินิกกัญชา และคลินิก LONG โควิด-19 เพื่อรองรับความต้องการของผู้ป่วยในตลาดดังกล่าว และดึงฐานผู้ป่วยใหม่ๆเข้ามาเสริมพอร์ต รวมไปถึงการทำโปรดักส์ออกสู่ตลาด เพื่อกระจายรายได้ไปในหลากหลายช่องทาง และลดลงการพึ่งพาเพียงรายได้การให้บริการทางการแพทย์มากจนเกินไป
สำหรับแผนการขยายโรงพยาบาล ปีนี้เตรียมเปิดให้บริการโรงพยาบาลวิภาราม พัฒนาการ ตึกใหม่ จำนวน 59 เตียง รวมถึงอาคารจอดรถที่ได้มีการขยายเพิ่มเติม มูลค่าการลงทุน 900 ล้านบาท, ในปี 66 จะเปิดให้บริการโรงพยาบาลวิภาราม อมตะ และอาคารจอดรถ มูลค่าลงทุน 400 ล้านบาท, ปี 67 จะเปิดให้บริการโรงพยาบาลวิภาราม บ่อวิน จำนวน 150 เตียง มูลค่าการลงทุน 1,000 ล้านบาท และปี 68 จะเปิดให้บริการโรงพยาบาลวิภาราม-อ่อนนุช จำนวน 250 เตียง มูลค่า 1,800 ล้านบาท
ขณะที่การเข้าไปร่วมลงทุนในโครงการโรงพยาบาลธนบุรี รังสิต ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการดำเนินการออกแบบ รวมถึงอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงพยาบาลสินแพทย์ นครปฐม และอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อขยายโรงพยาบาลวิภาราม อมตะนคร 2
นายพิจิตต์ กล่าวว่า บริษัทฯ ยังตั้งเป้าหมายการกระจายฐานรายได้ไปยังกลุ่มผู้ป่วยต่างชาติให้ขยับขึ้นเป็น 10-20% ของรายได้รวม จากปัจจุบันมีไม่ถึง 5% ซึ่งจะเน้นเจาะตลาดเพื่อนบ้าน และจีน ที่คาดว่าจะช่วยหนุนรายได้ของกลุ่ม VIBHA เติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะในส่วนของเด็กหลอดแก้ว(IVF) เป็นต้น