HILITE: โบรกฯ มองบวกกลุ่ม Tourism ลุ้นศบค.17 มิ.ย.ผ่อนคลายหนุนกระตุ้นท่องเที่ยว

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 13, 2022 10:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ว่า มีมุมมองเป็นบวก(Overweight)สำหรับกลุ่ม Tourism หากศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) มีการผ่อนคลายนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวตามที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เตรียมเสนอ ศบค. วันที่ 17 มิ.ย. นี้ ยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า-ขยายเวลาพำนักเป็น 45 วันถึงสิ้นปี

ทั้งนี้ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นประธานในที่ประชุมการรับฟังความคิดเห็นของผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยว เกี่ยวกับข้อเสนอแนวทางการผ่อนคลายมาตรการการเดินทาง ซึ่งเตรียมนำเสนอต่อที่ประชุม ศบค. ในวันที่ 17 มิ.ย. โดยที่มีข้อเสนอ ดังนี้

1) เสนอยกเลิกการลงทะเบียนระบบ Thailand Pass ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. เป็นต้นไป

2) เสนอยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าของวีซ่าประเภทท่องเที่ยว (Tourist Visa) ค่าธรรมเนียม 1,000 บาท และ Visa on Arrival ค่าธรรมเนียม 2,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ถึง 31 ธ.ค. 2022

3) เสนอขยายระยะเวลาพำนักเป็น 45 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.-31 ธ.ค. 22 ขยายระยะเวลาพำนักของชาวต่างชาติที่ถือวีซ่าประเภทท่องเที่ยว (Tourist Visa) เป็น 45 วัน ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 56 ประเทศ/ดินแดน และขยายระยะเวลา Visa on Arrival จากเดิมพำนักได้ไม่เกิน 15 วัน ปรับเป็น 45 วัน

4) เสนอยกเลิกการสวมใส่หน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ การตรวจวัดอุณหภูมิ แต่อาจสวมใส่ในสถานที่บางประเภท เช่น สถานที่แออัด

5) เสนอขยายระยะเวลาเศรษฐกิจภาคกลางคืน โดยกลับไปยึดตามกฎหมายเดิมที่บังคับใช้ช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19

KTBST มองว่าหากมีการผ่อนคลายนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวทั้ง 5 ข้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยกเลิก Thailand pass ในวันที่ 1 ก.ค. ซึ่งจะเป็นการปลดล็อกมาตรการการผ่อนคลายท่องเที่ยวได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะปัจจุบันมีขั้นตอนและระยะเวลารอคอยในการอนุมัติจากทางการไทยในการเข้าประเทศไทยค่อนข้างนานราว 5-7 วัน นอกจากนี้ประเด็นเรื่องการยกเว้นวีซ่าประเภทท่องเที่ยวและการขยายเวลาพำนักให้เป็น 45 วัน จากเดิมที่ 15 วัน เราคาดว่าปัจจัยทั้งหมดจะช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวต่างชาติได้เพิ่มขึ้นอีกมาก ซึ่งจะเป็น upside เพิ่มต่อประมาณการนักท่องเที่ยวในปี 2565 ที่เราคาดว่าจะอยู่ที่ 6.0 ล้านคน จากปีก่อนที่ 4.3 แสนคน (4 เดือนแรกปี 65 อยู่ที่ 8 แสนคน)

นอกจากนี้เราคาดว่า หลังจากนี้จะมีการเร่งประกาศโควิดเป็นโรคประจำถิ่น ซึ่งจะยิ่งเป็นตัวช่วยปลดล็อกให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งคล้ายกับการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ โดยหุ้นในกลุ่มโรงแรมที่จะได้รับผลบวกจากข่าวดังกล่าวจากมากไปน้อยเรียงตามสัดส่วนรายได้ในประเทศไทย ได้แก่ ERW, CENTEL, MINT, SHR

สำหรับหุ้นกลุ่ม Tourism เรายังให้น้ำหนักการลงทุนเป็น "มากกว่าตลาด" ชอบ ERW CENTEL, AOT จากประเด็นนี้ เรายังให้น้ำหนักการลงทุนเป็น "มากกว่าตลาด" โดยจากประเด็นนี้ ERW (ซื้อ/เป้า 3.90 บาท) และ CENTEL (ซื้อ/เป้า 50.00 บาท) จะได้ sentiment เชิงบวกมากสุด

ขณะที่เรายังชอบ MINT (ซื้อ/เป้า 44.00 บาท) เพราะคาดไตรมาส 2-ไตรมาส 4 ปี65 จะพลิกกลับมาเป็นกำไรทุกไตรมาสและจะโตเด่นเหนือกลุ่ม นอกจากนี้ชอบ AOT (ซื้อ/เป้า 76.00 บาท) ได้ประโยชน์โดยตรงจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ