นายวิรัตน์ ผูกไทย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) (SMT) เปิดเผยว่า บริษัทปรับลดเป้ารายได้ปี 65 เหลือ 3,000 ล้านบาท จากเดิมคาด 3,300 ล้านบาท จากปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบ แต่ยังเติบโตจากปีก่อนที่มีรายได้ 2.1 พันล้านบาท เนื่องจากคำสั่งซื้อจากทั้งลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ รวมทั้งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนั้น บริษัทยังมั่นใจจะสามารถรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) ไว้ที่ 20% จากการบริหารจัดการภายในองค์กร การลดต้นทุน การเพิ่มประสิทธิภาพในผลิต นอกจากนี้ในอนาคตจะเข้าไปบริหารจัดการซัพพลายเชน และการซื้อวัตถุดิบเองด้วย
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้คาดว่าจะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก จากปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 2,700 ล้านบาท ซึ่งจะส่งมอบงานและทยอยรับรู้รายได้ส่วนใหญ่ อีกทั้งยังอยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้าใหม่กว่า 15 ราย คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 4,000 ล้านบาท โดยในสัปดาห์หน้าบริษัทจะเดินทางเข้าไปเจรจาและเซ็นสัญญารับงานกับลูกค้ากลุ่มดังกล่าวบางส่วน คาดว่าจะรับงานเข้ามาเพิ่มได้ไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท อายุสัญญาจ้างผลิตระยะ 3-5 ปี หากได้รับงานจะสามารถเดินเครื่องทดสอบการผลิตและส่งมอบให้กับลูกค้าได้ในไตรมาส 4/65 ถึงไตรมาส 1/65 เป็นต้นไป
"เรายังสามารถสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าของเราได้อย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากลูกค้าปัจจุบันก็มีงานเพิ่มเข้ามา เช่น งาน IC ในอดีตจะผลิตในส่วนของ Consumer Product แต่ปัจจุบันก็มีการกระจายไปในส่วนของการทำ IC สำหรับ Automotive ซึ่งจะเป็นตลาดที่ใหญ่ขึ้น มีความต้องการมากขึ้น คาดว่าจะเห็นความชัดเจนมากขึ้นในไตรมาส 4/65 รวมถึงเรายังมี Products Segment เพิ่มมากขึ้น และมีการขยายตลาดเพื่อเพิ่มฐานลูกค้าใหม่
โดยในสัปดาห์หน้า SMT จะไปพบกับลูกค้าที่ยุโรป ใน 4-5 ประเทศ เพื่อเซ็นสัญญา ซึ่งเป็นสัญญาที่มีอยู่ก่อนแล้ว แต่เป็นการทำ Transfer Volume Production ส่งผลให้กลุ่มลุกค้ายุโรปน่าจะเพิ่มมากขึ้น และน่าจะเห็นรายได้เข้ามามากขึ้นในไตรมาส 4/65 ถึงไตรมาส 1/66" นายวิรัตน์ กล่าว