นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) กล่าวว่า บริษัทวางเป้าหมายขยายพอร์ตโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในเวียดนามอีก 200 เมกะวัตต์ หลังจากได้เข้าไปลงทุนตั้งโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ กำลังผลิตติดตั้งราว 49 เมกะวัตต์ และ โรงไฟฟ้าพลังงานลมอีก 48 เมกะวัตต์ โดยให้ความสนใจการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม เนื่องจากเวียดนามยังมีความต้องการใช้ไฟฟ้าอีกมาก ซึ่งเป็นการเติบโตไปตามภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศที่มีการเติบโตสูง ขณะที่เวียดนามมีชายฝั่งค่อนข้างยาว ทำให้การผลิตไฟฟ้า Off Shore Wind Farm มีประสิทธิภาพที่ดี
อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาการลงทุนในเวียดนามขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาส เบื้องต้นบริษัทอยู่ระหว่างเตรียมแผนงานลงทุนวินด์ฟาร์มเฟส 2 ในเวียดนาม ขนาดกำลังการผลิต 48 เมกะวัตต์ และปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนทำการศึกษาและรอความชัดเจนจากภาครัฐของเวียดนามเพื่อขยายการการลงทุนในโครงการถัดไป
ปัจจุบันบริษัทมีฐานะทางการเงินที่มีความแข็งแกร่ง และการขายโรงไฟฟ้าญี่ปุ่นในช่วงที่ผ่านมาเป็นแรงหนุนให้ฐานเงินทุนมีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น รองรับแผนการขยายพอร์ตโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทุกรูปแบบ วางเป้าภายใน 3 ปีจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็นเท่าตัวแตะระดับ 500 เมกะวัตต์ จากขณะนี้มีกำลังผลิตไฟฟ้าในมือ 240 เมกะวัตต์ โดยมีสัดส่วนจากแหล่งพลังงานใหม่ๆ เช่นพลังงานลม หรือ ชีวมวล เพิ่มมากขึ้นจากเดิมที่กระจุกตัวอยู่แต่พลังงานจากแสงอาทิตย์
นอกจากเวียดนามแล้ว ยังมองโอกาสขยายการลงทุนในอินโดนีเซียที่มีธุรกิจโซลาร์รูฟอยู่แล้วราว 30 เมกะวัตต์ รวมถึงมองโกเลียที่ได้เข้าไปร่วมทุน 75% ในโรงไฟฟ้าขนาด 15 เมกะวัตต์ที่จ่ายไฟฟ้าไปแล้วตั้งแต่ปี 62 ส่วนการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ LEO 2 ในประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิต 22 เมกะวัตต์เตรียมจ่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ไตรมาส 2/67
นายวรุตม์ กล่าวอีกว่า สำหรับการขยายโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ฮิดากะในญี่ปุ่น กำลังการผลิตติดตั้ง 21 เมกะวัตต์ มูลค่า 2,800 ล้านเยน หรือเทียบเท่ากับ 718.18 ล้านบาทนั้น บริษัทจะบันทึกกำไรราว 280 ล้านบาทในไตรมาส 2/65 ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการเติบโตอย่างมากทำสถิติใหม่ต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า และบริษัทคาดว่าในปี 65 นี้รายได้จะเติบโตได้อย่างต่ำ 20-30%