STP ปิดเช้าอยู่ที่ 20.10 บาท เพิ่มขึ่น 2.10 บาท หรือ +11.67% จากราคา IPO ที่ 18.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 2,361.91 ล้านบาท โดยราคาเปิดที่ 20.00 บาท ราคาสูงสุด 22.10 บาท ราคาต่ำสุด 20.10 บาท
นายสุรนัย โรจน์วงศ์จรัต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สหไทยการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ (STP) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ในปี 65 จะเติบโต 5-10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 561 ล้านบาท และคาดว่าภายใน 2-3 ปี รายได้จะเพิ่มขึ้นแตะ 750 ล้านบาทเร็วกว่าเป้าหมายเดิมที่คาดว่าจะใช้เวลา 5 ปี เนื่องจากปัจจุบันมีออร์เดอร์บรรจุภัณฑ์จากกลุ่มอาหารทะเลแปรรูป ซึ่งเป็นลูกค้าหลักเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่กลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มมียอดขายลดลงเพราะกำลังการผลิตของบริษัทไม่เพียงพอ ดังนั้นการเข้าระดมทุนด้วยการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ในครั้งนี้จะนำไปขยายกำลังการผลิต เพื่อให้สามารถรับออเดอร์จากกลุ่มเครื่องดื่มได้เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทยังมุ่งเน้นลูกค้าในประเทศก่อน เพราะมีฐานการผลิตในไทยเป็นหลักจึงมีความพร้อมหลายด้าน ซึ่งลูกค้าของบริษัทส่วนใหญ่เป็นบริษัทส่งออก อย่างไรก็ดี บริษัทก็ไม่ได้ปิดกั้นโอกาสการขยายตลาดต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนลูกค้าต่างประทเศไม่ถึง 1% จึงยังมีโอกาสอีกมาก
นายสุรนัย กล่าวว่า แนวโน้มอุตสาหกรรมกล่องบรรจุภัณฑ์ยังเติบโตต่อเนื่อง และลูกค้าหันมาใช้กล่องกระดาษมากขึ้น เพราะสามารถนำไปรีไซเคิลได้และย่อยสลายได้ง่าย ทำให้มีโอกาสเติบโตอีกมาก และสภาพการแข่งขันไม่รุนแรงมากนัก ในส่วนวัตถุดิบที่มีราคาสูงขึ้นนั้น บริษัทก็สามารถปรับขึ้นราคาตามไปได้ โดยลูกค้าเข้าใจสถานการณ์อยู่แล้ว
ทั้งนี้ บริษัททมองว่าผลประกอบการในไตรมาส 2/65 จะยังคงดีต่อเนื่องจากไตรมาส 1/65 เนื่องจากบริษัทใช้กำลังการผลิตเต็มที่แล้ว หลังจากได้รับออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
STP ประกอบธุรกิจผลิตกล่อง 2 ชนิด 1) กล่องกระดาษออฟเซทแบบประกบฟูก และ 2) กระดาษออฟเซทแบบไม่ประกบฟูก เพื่อบรรจุอาหารทะเลแปรรูป และสินค้าอุปโภคบริโภค เงินที่ระดมทุนจากการเสนอขายหุ้น IPO หุ้นละ 18 บาท รวมจำนวนเงิน 457 ล้านบาท นำไปขยายโรงงาน เครื่องจักรและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน