นายนพพร ภัทรรุจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โกลบอล คอนซูเมอร์ (GLOCON) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าผลประกอบการในปี 65 จะพลิกกลับมามีกำไรสุทธิได้ จากปีก่อนมีผลขาดทุนสุทธิที่ 152.43 ล้านบาท โดยในไตรมาส 1/65 มีกำไรสุทธิแล้ว 16.68 ล้านบาท
บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้ไว้ที่ 3,000 ล้านบาท เติบโต 57.8% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,926 ล้านบาท เป็นไปตามการเติบโตของทุกกลุ่มธุรกิจ และการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ลูกชิ้นทิพย์ ที่เข้ามาสนับสนุนผลการดำเนินงาน ซึ่งเริ่มรับรู้รายได้มาตั้งแต่เดือน มี.ค.65 และจะรับรู้รายได้เต็มไตรมาสตั้งแต่ไตรมาส 2/65 เป็นต้นไป ทำให้ผลการดำเนินงานจากนี้จะเติบโตได้ดีต่อเนื่อง
สำหรับธุรกิจอาหารแปรรูปแช่แข็งและอาหารกึ่งสำเร็จรูปพร้อมทานภายใต้การดำเนินงานของบริษัท เอ็นพีพี ฟู้ด เซอร์วิส จำกัด(NPPFS) คาดว่าปีนี้จะมียอดขายราว 1,047 ล้านบาท เติบโต 62% จากปีก่อน หลังจากขยายกำลังการผลิตขึ้น 3 เท่า โดยเริ่มเดินเครื่องผลิตแล้วในไตรมาส 2/65 ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสให้กับกล่มผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็ง (Frozen Foods products line) ให้หลากหลายขึ้น ตั้งเป้าเพิ่มเมนูนานาชาติ จากปัจจุบันเน้นอาหารไทย รวมถึงจะมี Plant Based Products และ Hemp Foods Products ด้วย
ส่วนการขยายธุรกิจอาหารแช่เย็น (Chilled Foods) คาดว่าจะมีความพร้อมในไตรมาส 3/65 และร่วมมือกับร้านอาหารแบรนด์ดังออกสินค้าอาหารพร้อมทานเพื่อขายให้กับพันธมิตรร้านสะดวกซื้อ
ด้านสินค้าผลไม้อบแห้ง คาดว่าปีนี้จะมียอดขายราว 605 ล้านบาท เติบโต 23.1% จากปีก่อน หลังเพิ่มกำลังการผลิตประมาณ 50% ปัจจุบันเริ่มเดินเครื่องแล้วจะทำให้มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากขึ้น โดยมุ่งเน้นตลาด healthy dried fruit และ healthy fruit snacks รวมทั้งขยายตลาดส่งออก โดยเฉพาะเอเชีย ออสเตรเลีย และตะวันออกกลาง จากเดิมที่มีตลาดอยู่ในสหรัฐและยุโรป
ขณะที่ลูกชิ้นทิพย์ คาดว่าปีนี้จะมียอดขายราว 650 ล้านบาท เติบโต 18.4% จากปีก่อน โดยได้ขยาย Outlet เพิ่มขึ้น เน้นสาขาในปั๊มน้ำมัน จากเดิมที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าเป็นหลัก รวมถึงเพิ่มความหลากหลายของซอสมากขึ้น เพื่อมุ่งเน้นการส่งออก
นายนนพร กล่าวอีกว่า ธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภทต่างๆ คาดปีนี้จะมียอดขาย 742 ล้านบาท เติบโต 9% จากปีก่อน ตามการขยายไลน์ผลิตให้กับกลุ่มลูกค้า cosmetic, personal care, household products เป็นต้น, ธุรกิจเทรดดิ้ง คาดยอดขาย 83 ล้านบาท เติบโต 384% โดยจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้หลากหลายขึ้น และเน้นการส่งออกภายใต้แบรนด์ของบริษัทเองภายใต้ชื่อ Kitchen Plus, VIIVA เป็นต้น
"บริษัทตั้งเป้าสร้างการเติบโตในแต่ละธุรกิจให้มียอดขายรวมเติบโตแตะ 1,000 ล้านบาท โดยคาดว่า NPPFS น่าจะสามารถทำได้ในปีนี้ ขณะที่ผลไม้อบแห้ง, ลูกชิ้นทิพย์ และธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภทต่างๆ ก็จะเป็นธุรกิจถัดไป ซึ่งจากการเพิ่มกำลังการผลิต ก็น่าจะสามรถรองรับยอดขายที่เพิ่มขึ้นได้" นายนพพร กล่าว
นอกจากนั้น ขณะนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อกิจการ (M&A) ใหม่ๆ ในธุรกิจอาหาร 2 ดีล คาดว่าจะสามารถสรุปความชัดเจนได้ภายในสิ้นปีนี้ เพื่อสร้างการเติบโตในปี 66 ส่วนความคืบหน้าธุรกิจกัญชง ปัจจุบันอยู่ในกระบวนการขอเลขทะเบียน อย.เพื่อเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดให้ได้เร็วที่สุด