บมจ. โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA) ผนึกพันธมิตร บริษัท คันเดน เรียลตี้ แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ (KRD) และ บริษัท โทเร คอนสตรัคชั่น จำกัด (TCC) ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับเวิลด์คลาสทั้งในญี่ปุ่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และทั่วโลก โชว์โรดแมพลุยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่กรุงเทพทั้งแนวสูง-แนวราบ เตรียมเปิดตัวโครงการแรก 125 สาทร (125 SATHORN) คอนโดมิเนียมระดับหรู บนทำเลทองผืนใหญ่กว่า 3 ไร่ หน้ากว้างถึง 97 เมตรติดถนนสาทร มูลค่าโครงการกว่า 8,000 ล้านบาท
น.ส.อุษณา มหากิจศิริ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TTA กล่าวว่า TTA มีเป้าหมายจะขยายโอกาสการลงทุนไปยังหลากหลายธุรกิจ นอกเหนือจากกลุ่มธุรกิจที่ได้เข้าไปลงทุนกว่า 5 กลุ่มธุรกิจ ทั้งธุรกิจชิปปิ้ง น้ำมันและก๊าซ อาหาร และธุรกิจอื่นๆ อีกมากมาย โดยตลาดอสังหาริมทรัพย์เป็นอีกกลุ่มธุรกิจที่ TTA เล็งเห็นถึงศึกยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต จากสัญญาณการฟื้นตัวตลาดที่อยู่อาศัยที่เริ่มส่งสัญญาณบวก รวมถึงสถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลายมากขึ้น
นอกจากนั้น นโยบายกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ทั้งจากภาครัฐและเอกชนช่วยให้เอื้อต่อการซื้อ-ขายมากขึ้น อาทิ การลดค่าโอนกรรมสิทธิ์และค่าจดจำนองทั้งบ้านใหม่และบ้านมือสอง รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการควบคุมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ชั่วคราวของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทำให้เริ่มเห็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ทยอยเปิดตัวโครงการใหม่ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา
ในการร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกในครั้งนี้ บริษัทเชื่อมั่นว่าเมื่อผนวกจุดแข็งความร่วมมือกันของทั้งสามฝ่ายระหว่าง TTA, KRD และ TCC จะสามารถสร้างเอกลักษณ์และคุณค่าใหม่ให้กับตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยได้
นายภัทร์กร วงศ์สวรรค์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า โครงการ 125 สาทร เป็นคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ บนทำเลใจกลางสาทร ซึ่งเป็นทำเลที่มีดีมานด์สูง และมีซัพพลายคอนโดเปิดใหม่ค่อนข้างจำกัด โดยเฉพาะทำเลหน้ากว้างติดถนนกว่า 97 เมตรซึ่งแทบจะหาที่ดินติดถนนใจกลางเมืองเพื่อพัฒนาโครงการได้น้อยมากด้วยราคาที่ดินที่ปรับตัวสูงขึ้นทุกปี ล่าสุดที่ดินย่านสาทรกระโดดพุ่งสูงเป็นอันดับที่ 2 ของราคาที่ดินทั่วกรุงเทพฯ ด้วยราคา 2.5 ล้านบาทต่อตารางวา และมีแนวโน้มปรับราคาเพิ่มเฉลี่ยปีละ 2-3%
ด้วยศักยภาพที่ยังไม่สิ้นสุดจากการแวดล้อมด้วยคอมมูนิตี้ชั้นนำ และสิ่งอำนวยความสะดวกมากที่สุด ตลอดจนโครงการเมกะโปรเจ็กต์ใหม่ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นภายใน 3-5 ปีข้างหน้า ที่จะเข้ามาสร้างสีสัน และเติมเต็มการใช้ชีวิตหรือไลฟ์สไตล์ของคนในพื้นที่มากขึ้น ทำให้ย่านสาทรเป็นที่ต้องการอย่างมากในกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงในระดับราคาที่เข้าถึงได้
"ช่วงการพัฒนาแนวคิดของโครงการ 125 สาทร เป็นช่วงสถานการณ์โควิด ทำให้เราได้ศึกษาถึงพฤติกรรมการเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตของผู้คนในสังคมที่ได้รับผลกระทบทั้งในเรื่องของสถานที่ทำงาน สถานที่การใช้ชีวิตเพื่อสอดรับกับไลฟ์สไตล์ โดยเฉพาะในสังคมเมือง ที่ผู้คนต่างมองหาสถานที่ที่สาม (Third Place) นอกเหนือจากบ้านและที่ทำงาน เพื่อทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันจึงเป็นที่มาของการวิเคราะห์ความต้องการของผู้พักอาศัยในยุคโควิด นำไปสู่การดีไซน์และออกแบบฟังก์ชั่นต่างๆ ของพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ 125 สาทร ให้ผู้พักอาศัยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายและตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ได้ที่บ้าน โดยมองว่าเมื่อบ้านไม่ได้เป็นแค่ที่พักอาศัยอย่างเดียวอีกต่อไป แต่จะกลายเป็นศูนย์รวมของกิจกรรมการใช้ชีวิตโดยรวม จะทำอย่างไรที่จะรวมสถานที่ทั้งสามแห่ง เพื่อการใช้ชีวิตของผู้คน ทั้ง First, Second และ Third Place เข้ามารวมไว้ด้วยกัน" นายภัทร์กร กล่าว
นายเคนอิจิ ฟูจิโนะ ประธานกรรมการ KRD กล่าวว่า การก่อตั้งบริษัทร่วมทุนแห่งแรกของเรากับพันธมิตรในเมืองไทย จะทำให้ทุกฝ่ายได้นำเสนอจุดแข็งร่วมกัน โดยในส่วนของคันเดนฯ จะพยายามส่งเสริมธุรกิจผ่านการใช้แนวทางการดำเนินงานที่บริษัทสั่งสมมาจากการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยทั้งในญี่ปุ่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตลาดอื่น ๆ ทั่วโลก อาทิ สหรัฐฯ และออสเตรเลีย รวมกว่า 50,000 ยูนิต ด้วยความสำเร็จของโครงการ Mix-Used เป็นผลงานการันตีความสำเร็จชั้นยอดในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของ KRD โดยเราคาดการณ์ว่าตลาดที่อยู่อาศัยในไทยจะเติบโตต่อไปอย่างต่อเนื่อง และประเทศไทยยังถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในตลาดสำคัญสำหรับการลงทุนในต่างประเทศของเรา
โดย KRD ได้จัดตั้งสำนักงานเพื่อดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำให้เรามั่นใจว่าเมื่อ TTA, KRD และ TCC ร่วมมือกัน จะสามารถส่งมอบคุณค่าใหม่สู่ตลาดคอนโดมิเนียมในไทย และมั่นใจว่าโครงการ 125 สาทร จะขึ้นแท่นเป็นโครงการระดับแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ