บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) ร่วมกับ บริษัท อีทราน (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดให้บริการจุด ETRAN Power Station แห่งแรกในศูนย์การค้าเพื่อให้บริการสลับแบตเตอรี่กับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าหรือมอเตอร์ไซค์ EV ที่ใช้ในการส่งของ เพื่อเป็นการประหยัดพลังงานในภาวะน้ำมันแพง โดยนำร่องเปิดให้บริการ ณ ชั้น บี 1 (เสา N21) ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า เพื่อร่วมลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเล็งเห็นถึงการเติบโตของการขนส่งอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำการเป็นองค์กรยั่งยืนระดับโลกภายใต้วิสัยทัศน์ "Imagining better futures for all" มุ่งมั่นสร้างสรรค์สิ่งดีๆ เพื่อนาคตที่ยั่งยืนของทุกคน
นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด CPN กล่าวว่า การร่วมกับอีทรานเปิดจุด ETRAN Power Station ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความตั้งใจที่จะช่วยสนับสนุนพลังงานสะอาด และประหยัดพลังงานน้ำมันในช่วงที่ภาวะน้ำมันแพง อีกทั้ง ช่วยลดต้นทุนของเหล่าไรเดอร์ในการขนส่งสินค้า และส่งเสริมยอดขายให้พันธมิตรร้านอาหารภายในศูนย์ฯ นอกจากนั้นยังทดลองให้บริการส่งของของกลุ่มเซ็นทรัล ด้วยรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ETRAN และพร้อมนำร่องในศูนย์การค้าเซ็นทรัลสาขาอื่นๆ ต่อไปในอนาคต
นายสรณัญช์ ชูฉัตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีทราน (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า อีทรานพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการ ยกระดับคุณภาพชีวิตของกลุ่มไรเดอร์ ให้ได้รับความสะดวกสบายเมื่อมารับส่งอาหารที่ เซ็นทรัล พัฒนา ให้ได้มีต้นทุนในการขับขี่ที่ลดลงกว่า 40% และที่สำคัญ ยังเป็นส่วนหนึ่งให้การลดคาร์บอน เพื่อให้ได้สังคมที่ดีขึ้น
สำหรับวิธีการเข้ารับบริการ ง่ายๆ เพียง
1. ไรเดอร์ ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น อีทราน ได้ทั้งระบบ ไอโอเอส หรือ แอนดรอยด์ และกดที่เมนูจองเปลี่ยนแบตเตอรี่
2. เลือกเวลาและสาขาที่ต้องการเข้ารับบริการ
3. เมื่อถึงสถานี แสดง QR code ต่อเจ้าหน้าที่ประจำสาขา โดยใช้เวลาเปลี่ยนแบตอยู่ที่ 4นาที เพียงเท่านี้ พี่ๆไรเดอร์ก็สามารถรับงานได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุดแล้ว
ความร่วมมือของ เซ็นทรัลพัฒนา และ ETRAN นอกจากจะช่วยสร้างประสิทธิภาพในการขนส่งให้ได้ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ส่งเสริมความเท่าเทียมต่อทุกคนคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ แล้วยังสามารถเป็นตัวแทนในการลดการปลดปล่อยคาร์บอนได้กว่า 45 กรัมในทุกๆกิโลเมตรที่ขนส่ง และจะนำพลังงานทดแทน (Renewable energy) เข้ามาทดลองใช้ภายในสถานี 100% เพื่อเป็นการตอกย้ำสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวทางของสหประชาชาติและทั้งสององค์กรต่อไป