นายภาสิต ลี้สกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บมจ.ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น (TRC) เปิดเผยว่า บริษัทยังคงต้องลุ้นผลประกอบการในปี 65 จะกลับมามีกำไรสุทธิได้หรือไม่ หลังจากช่วงไตรมาส 1/65 ยังมีผลขาดทุนอยู่ 33 ล้านบาท และบริษัทได้ปรับลดเป้าหมายรายได้ลงเหลือใกล้เคียงกับปี 64 ที่ 3,888.26 ล้านบาท จากเดิมที่คาดจะมีรายได้ราว 4,500-4,800 ล้านบาท
ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทได้รับแรงกดดันจากการกลับมาแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพัยธุ์โอไมครอนในช่วงไตรมาส 1/65 ที่เป็นอุปสวรค์ต่อการเข้าหน้าไซต์ ทำให้งานมีหยุดไปบ้างบางช่วงส่งผลให้การดำเนินงานล่าช้ากว่ากำหนด ในขณะเดียวกันบริษัทยังได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อ ต้นทุนวัสดุที่ปรับตัวสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันดีเซล คอนกรีต และเหล็ก ที่ปรับตัวสูงมากกว่า 30%
แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทได้วางแผนป้องกันความเสี่ยง ทั้งการเจรจากับทางเจ้าของโครงการเพื่อปรับราคาส่วนต่างวัสดุ เจรจากันทางสถาบันการเงินเพื่อขอวงเงินล็อกต้นทุนวัสดุกับทางซัพพรายเออร์ และเร่งงานให้เสร็จเร็วขึ้น เพื่อทึ่จะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมในปีนี้ให้อยู่ที่ระดับไม่ต่ำกว่า 6% รวมถึงรักษา Buttom line ให้อยู่ในระดับที่มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ โดยปีนี้บริษัทจะมุ่งเน้นเข้าประมูลงานก่อสร้างที่มีมาร์จิ้นสูงโดยเฉพาะงานก่อสร้างในโครงการ Oil&Gas, Petrochemical รวมถึงงานใหม่ๆ อย่างการก่อสร้างคลังสำรองน้ำมัน ขณะเดียวกันก็มีการ Diversify ไปในกลุ่มธุรกิจที่มีมาร์จิ้นสูง เช่น กลุ่มดิจิทัล
ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 6,398.18 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนออกเป็นงาน Civil Works มูลค่า 5,539.67 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนกว่า 86.58%, งาน Piping System มูลค่า 721.14 ล้านบาท คิดเป็น 11.27% และอื่นๆ 137.37 ล้านบาท คิดเป็น 2.15% ของานในมือทั้งหมด เบื้องต้นคาดว่าจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในไตรมาส 2/65 ไปจนถึงไตรมาส 4/65 นี้ประมาณ 3,000 ล้านบาท