บลจ.ทิสโก้ เตรียมออกกองุทน FIF เน้นลงทุนตลาดสินค้าเกษตร

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 20, 2008 18:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายธีรนาถ รุจิเมธาภาส รองกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าธุรกิจกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคล บลจ.ทิสโก้ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทจึงกำลังเตรียมออกกองทุนใหม่ล่าสุด "กองทุนเปิด ทิสโก้ อากริคัลเจอร์ ยูโร ฟันด์" (TISCO Agriculture Euro Fund) ซึ่งเป็นกองทุนรวมผสมที่ลงทุนในต่างประเทศ (FIF) ประเภทกองทุนรวมผ่านกองทุนต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) หลังเห็นแนวโน้มสินค้าโภคภัณฑ์ทางการเกษตรกำลังเป็นการลงทุนทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจ และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง
กองทุนหลัก (Master Fund) ที่จะเข้าไปลงทุนคือ กองทุน DB Platinum Agriculture Euro Fund ซึ่งจัดตั้งและจดทะเบียนในประเทศลักเซมเบิร์ก บริหารและจัดการโดย DB Platinum Advisors ซึ่งเป็นบริษัทของธนาคารดอยช์แบงก์ในประเทศลักเซมเบิร์ก ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวมีนโยบายเน้นลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าประเภทสินค้าเกษตร (Agricultural Commodity) ที่อ้างอิงกับดัชนี db Agriculture Euro Index โดยกองทุนจะลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหน่วยลงทุนของกองทุน DB Platinum Agriculture Euro โดยเฉลี่ยไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
นายธีรนาถ กล่าวว่า จุดเด่นของกองทุน DB Platinum Agriculture Euro Fund ซึ่งเป็นกองทุนหลักที่จะเข้าไปลงทุนว่า กองทุนดังกล่าวลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับ db Agriculture Euro Index ซึ่งเป็นดัชนีที่มีผลตอบแทนสูง และมีความผันผวนต่ำ โดยสินค้าเกษตรที่อยู่ใน db Agriculture Euro Index คือ ข้าวสาลี, ข้าวโพด, อ้อย, ฝ้าย, เมล็ดกาแฟ, ถั่วเหลือง และโกโก้ ซึ่งเป็นสินค้าเกษตรกลุ่มธัญพืชที่มีสภาพคล่องสูงสุด ส่วนน้ำหนักการลงทุนในธัญพืชแต่ละชนิดจะมาจากการวิจัยของ DB commodity research
"กองทุนนี้อ้างอิงกับราคาสินค้าเกษตร ดังนั้นผลการดำเนินงานของกองทุนจะสะท้อนการปรับตัวขึ้นหรือลง ของราคาสินค้าเกษตรโลก ซึ่งมีแนวโน้มการปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากปริมาณความต้องการที่เพิ่มขึ้น แต่มีทรัพยากรจำกัด โดยจากการวิจัยของดอยช์แบงก์ พบว่า ความต้องการสินค้าเกษตรประเภทธัญพืช จะเพิ่มขึ้นเป็น 3.3 พันล้านตันภายในปี 2050" นายธีรนาถ กล่าว
ทั้งนี้ ผลตอบแทนของ db Agriculture Euro Index ในรอบ 1 ปีย้อนหลัง อยู่ที่ 34.73%, 3 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 64.48% และ 5 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 73.77% ซึ่งถือว่าสูงและน่าสนใจมาก จึงเป็นโอกาสดีที่ บลจ. ทิสโก้จะเข้าไปลงทุนในสินค้าคอมโมดิตี้ในตลาดโลก ผ่านผู้บริหารกองทุนของกองทุนคอมโมดิตี้รายใหญ่อย่าง DB Platinum Advisors
กองทุนดังกล่าวจะลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ทางการเกษตรโดยตรง ไม่ได้ซื้อหุ้นของกลุ่มสินค้าเกษตร เพราะการซื้อหุ้นมีทั้ง Specific Risk เช่น พนักงานประท้วง เครื่องจักรเสีย การบริหารพลาด ฯลฯ และ Market Risk เช่น สภาวะตลาดหุ้นซบเซา หุ้นบริษัทนั้นก็ตก เป็นต้น ดังนั้นการที่กองทุนลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์โดยตรง นักลงทุนก็จะไม่ต้องกังวลเรื่องหุ้น
นอกจากนี้ กองทุนหลัก (กองทุน DB Platinum Agriculture Euro Fund) ให้ผลตอบแทนในรูปสกุลเงินยูโร ดังนั้นจึงน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงการลงทุนที่อิงกับสกุลเงินอื่นนอกเหนือจากเงินดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ