นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคระห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสแกว่งตัวไซต์เวย์ในทิศทางปรับตัวลดลง โดยได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิ่งลงกว่า 6% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากความกังวลว่าเศรษฐกิจจะหดตัวลงและกระทบความต้องการใช้น้ำมัน
นอกจากนี้ยังมีแรงกดดันในกลุ่มโรงกลั่น จากนโยบายที่ภาครัฐได้ขอความร่วมมือให้มีการลดค่าการกลั่นลง เพื่อที่จะช่วยเหลือประชาชน ซึ่งต้องติดตามว่ากลุ่มโรงกลั่นจะมีการดำเนินการอย่างไร
แต่อย่างไรก็ตามมองว่าจะมีกลุ่มที่ได้ประโยชน์การอ่อนค่าของเงินบาทเข้ามาหนุน อาทิเช่น กลุ่มส่งออก และ กลุ่มอาหาร ร่วมไปถึงกลุ่มธนาคารที่ได้รับปัจจัยหนุนจากดอกเบี้ยขาขึ้น
พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,545-1,540 จุด และ แนวต้าน 1,580-1,585 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (17 มิ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,888.78 จุด ลดลง 38.29 จุด หรือ -0.13%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,674.84 จุด เพิ่มขึ้น 8.07 จุด หรือ +0.22% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,798.35 จุด เพิ่มขึ้น 152.25 จุด หรือ +1.43%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 29,156.62 จุด เพิ่มขึ้น 193.62 จุด หรือ +0.74%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,948.80 จุด ลดลง 126.2 จุด หรือ -0.6% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,315.78 จุด ลดลง 1.01 จุด หรือ -0.03%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (17 มิ.ย.) ที่ระดับ 1,559.39 จุด ลดลง 1.71 จุด, -0.11%
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,629.30 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.65
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.(17 มิ.ย.) ร่วงลง 8.03 ดอลลาร์ หรือ 6.83% ปิดที่ 109.56 ดอลลาร์/บาร์เรล และปิดร่วงลง 9.2% ในรอบสัปดาห์นี้
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (17 มิ.ย.) อยู่ที่ 26.35 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.31 อ่อนค่ารอบ 5 ปี หลังบอนด์ยิลด์พุ่งต่อเนื่อง คาดกรอบวันนี้ 35.20-35.40
- "สุพัฒนพงษ์" นัด บอร์ดอีวีแห่งชาติ ก.ค.นี้ เคาะมาตรการเพิ่มหนุนสถานีชาร์จ ซอฟต์โลน ลดภาษี เร่งแผนดึงค่ายรถยุโรปลงทุน หน่วยงานรัฐ ขานรับพร้อมจัดมาตรการส่งเสริมการใช้รถอีวีในประเทศ เชื่อความต้องการใช้เติบโต ก้าวกระโดด "สรรพสามิต" ชงมาตรการหนุนจุดชาร์จแบตเตอรี่
- ผู้ประกอบการรถยนต์ มั่นใจไทยพร้อมเป็น "ฮับอีวี" ชี้แนวนโยบายชัดเจน ตลาดมีศักยภาพ "เอ็มจี" แนะสร้างความแข็งแกร่งภูมิภาคอาเซียน "เบนซ์" พร้อมทำงานร่วมภาครัฐใกล้ชิด เร่งสร้างความแข็งแกร่งในประเทศก่อนส่งออก "เกรท วอลล์" หวังรัฐเพิ่มความเข้มข้นนโยบาย แนะทุกฝ่ายเพิ่มความร่วมมือ
- นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังมีแนวคิดที่จะนำภาษีลาภลอย (Windfall Tax) มาศึกษาความเป็นไปได้อีกครั้ง ตามนโยบายการปฏิรูปโครงสร้างภาษีของประเทศหลังจากที่เคยนำเสนอร่างภาษีดังกล่าว เมื่อหลายปีที่ผ่านมาแต่ไม่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่วนเหตุผลที่จะนำภาษีดังกล่าว มาศึกษาวิเคราะห์ความเป็นไปได้ใหม่อีกครั้ง เพื่อสร้างรายได้เพิ่มให้กับภาครัฐ และให้มีรายได้มาพัฒนาประเทศ
- รฟท.โล่ง "อัยการ-กฤษฎีกา" เคลียร์ปมลำรางสาธารณะ ที่ดินมักกะสัน เดินหน้าไฮสปีด 3 สนามบิน คาดเสนอ กพอ.-ครม. แก้สัญญาร่วมลงทุนฯ ส.ค.-ก.ย.นี้ เร่งไทม์ไลน์ออก NTP ช่วง ม.ค.66 ลุยตอกเข็มโครงสร้างร่วม "บางซื่อ-ดอนเมือง" เริ่มจ่ายคืนค่าก่อสร้างเดือน ต.ค.67
- ธุรกิจปรับแผนรับมือวิกฤต "เงินเฟ้อ" ทั้งราคาพลังงาน-ค่าไฟฟ้า-วัตถุดิบพุ่งไม่หยุด จุดเปลี่ยน "ดอกเบี้ยขาขึ้น" กระทบต้นทุนธุรกิจพุ่งทุกมิติ ฝ่ายวิจัยทีทีบีชี้ธุรกิจอ่วมส่งผ่านต้นทุนไม่ได้ "เอสเอ็มอี" เจอผลกระทบดอกเบี้ยหนักสุด เพราะทุนหมุนเวียนส่วนใหญ่เป็นเงินกู้ เคแบงก์เผยเอสเอ็มอีแห่ขอวงเงินสินเชื่อตุนสภาพคล่องรับมือช่วงยากลำบาก พร้อมสัญญาณชะลอการลงทุนใหม่ "เอสซีจี-กระทิงแดง" รีวิวแผนธุรกิจรายเดือน "เอไอเอส" ยึดนโยบายรัดเข็มขัด ฟากธุรกิจโรงแรมเหนื่อยหนักแบกภาระดอกเบี้ยเงินกู้เพิ่ม "เซ็นทารา" ปรับแผนเอาต์ซอร์ซ ลดต้นทุน
*หุ้นเด่นวันนี้
- CPALL (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 64.00 บาท "เก็บหุ้นลงลึก...และได้ประโยชน์จากการเปิดเมือง" ทยอยซื้อสะสมหุ้นลงลึก โดยราคา CPALL ปรับฐานกว่า 9% (นับจาก 1 มิ.ย. 22) ขณะที่การเปิดเมืองและผ่อนคลายมาตรโควิด หนุนยอดขาย/สาขา (SSSG) Operation ฝั่ง MAKRO ค่อยๆ ดีขึ้น ทั้งในด้านยอดขาย-ค่าเช่า (ฝั่งรายได้) และฝั่งต้นทุนการที่ได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง Bloomberg Consensus ประเมินกำไรสุทธิปี 2565-2566 เฉลี่ยที่ 1.68 หมื่น ลบ. และ 2.2 หมื่น ลบ. +29%YoY, +31%YoY ตามลำดับ
- SC (ฟินันไซีย ไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 4.60 บาท ยอด Presales 2QTD ยังแข็งแกร่งและเดือน มิ.ย. ได้แรงหนุนจากการเปิดโครงการแนวราบอีก 6 โครงการ ทำให้แนวโน้มกำไรตั้งแต่ไตรมาส 2/65 จะเร่งตัว Q-Q ทุกไตรมาสของปีและทำจุดสูงสุดใน ไตรมาส 4/64 จาก Backlog ที่แข็งแกร่ง เราคาดกำไรปีนี้ +15% Y-Y ทำ New High และคาดกระทบจำกัดจากเงินเฟ้อและดอกเบี้ยขาขึ้นจากฐานลูกค้าที่เป็นระดับกลาง-บน ปัจจุบันราคาหุ้นเทรด PER ต่ำเพียง 6 เท่าและให้ Dividend Yield เกือบ 7%
- EPG (กรุงศรี) "ซื้อ" เป้า 16 บาท ได้ Sentiment บวกจากราคาน้ำมันดิบร่วงแรงราว 8 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และยังได้ผลบวกจากค่าเงินบาทอ่อนค่าเนื่องจาก EPG มีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศคิดเป็น 60% ของรายได้รวม