นายอภิชาต แสงจันทร์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ.เบล็ส แอสเสท กรุ๊ป (BLESS) เปิดเผยว่า BLESS จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายครั้งนี้ และอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมเพื่อจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในปีนี้
โดยเตรียมจัดโรดโชว์ เพื่อนำเสนอข้อมูลผ่านระบบออนไลน์ ในวันศุกร์ที่ 24 มิ.ย. 65 ซึ่งจะทำให้นักลงทุนได้เห็นถึงศักยภาพการดำเนินธุรกิจของบริษัทในฐานะผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่โครงการมีความหลากหลาย ทั้งคอนโดมิเนียม ทาวน์โฮม บ้านแฝด บ้านเดี่ยว ตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ กระจายอยู่บริเวณกรุงเทพฯ และปริมณฑล สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกความต้องการในยุค New Normal
นอกจากนี้ ทีมผู้บริหารยังมีประสบการณ์ในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มายาวนานกว่า 20 ปี ทำให้มีความเข้าใจธุรกิจ และเข้าถึงความต้องการของลูกค้า ได้เป็นอย่างดี และจากผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา มั่นใจว่านักลงทุนจะให้การตอบรับอย่างคึกคัก
ขณะผลการดำเนินงานย้อนหลังตั้งแต่ปี 62-64 มีรายได้รวม 558.27 ล้านบาท 895.48 ล้านบาท และ 798.04 ล้านบาท ตามลำดับ มีกำไรสุทธิ 82.65 ล้านบาท 114.54 ล้านบาท และ 80.07 ล้านบาท ตามลำดับ
ด้านนายชัยวัฒน์ โกวิทจินดาชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BLESS กล่าวว่า บริษัทเตรียมนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ ไปใช้เป็นเงินลงทุนในการซื้อที่ดินและพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ เพื่อขยายธุรกิจของบริษัทฯและบริษัทย่อย พร้อมชำระคืนหนี้เงินกู้ยืม และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน รองรับแผนการเติบโตในช่วง 3 ปีข้างหน้า ซึ่งวางเป้าหมายรายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 20% ต่อปี
"การเข้าระดมทุนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ในครั้งนี้ จะเพิ่มโอกาสการเติบโตให้กับธุรกิจของ BLESS เป็นอย่างมาก ทำให้ฐานะทางการเงินมีความแข็งแกร่ง มีต้นทุนทางการเงินที่ถูกเมื่อเทียบกับคู่แข่งนอกตลาด"นายชัยวัฒน์ กล่าว
โดยบริษัทเน้นพัฒนาโครงการที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล ณ วันที่ 31 ธ.ค. 64 บริษัทมี โครงการที่ปิดการขายแล้ว จำนวน 6 โครงการ มีโครงการที่อยู่ในระหว่างการขาย 8 โครงการ และโครงการในอนาคต จำนวน 1 โครงการ
สำหรับจุดเด่นที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้ BLESS มีความน่าสนใจ ซึ่งสามารถรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับกว่า 30% ในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากมีบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ได้แก่ บริษัท เบล็ส บิลด์ จำกัด (BB) ทำให้บริษัทสามารถควบคุมคุณภาพ มาตรฐาน ต้นทุนการก่อสร้างและปรับเปลี่ยนการบริหารงานภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพ