นายสุกิจ อุดมศิริ กรรมการผู้จัดกานสายงานวิจัย บล.ไทยพาณิชย์ (SCBS) เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีหลังของปี 65 ยังคงมีความแข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้นอื่นๆ เนื่องจากแนวโน้มกำไรของบริษัทจดทะเบียนในภาพรวมยังมีการเติบโตได้ โดยเฉพาะจากอานิสงส์การเปิดประเทศ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดว่าทั้งปีนี้เศรษฐกิจจะขยายตัว 3.4%
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยยังคงมีความเสี่ยงทั้งจากในประเทศและทั่วโลกที่ต้องเผชิญเงินเฟ้อที่สูงต่อเนื่องและอัตราดอกเบี้ยที่มีโอกาสปรับตัวขึ้น ซึ่งทำให้การลงทุนในช่วงครึ่งปีหลังไม่สดใสมากนัก โดยเฉพาะการได้รับ Sentiment ด้านลบจากตลาดหุ้นสหรัฐและจีน รวมถึงสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยังยืดเยื้อ
SCBS คงมุมมองดัชนี SET ในสิ้นปีนี้ตามประมาณการเดิมที่ 1,650 จุด หรือเคลื่อนไหวในกรอบ 1,550-1,750 จุด แม้ว่าจะยังมีปัจจัยกดดันเข้ามา แต่เชื่อว่าดัชนีจะไม่ลงแรงเหมือนช่วงโควิด-19 เพราะผลกระทบต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียนไม่ได้รุนแรงมากเท่ากับช่วงดังกล่าว แต่อาจจะมีความเสี่ยงจากบางกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากราคาต้นทุนพลังงานที่สูง ได้แก่ กลุ่มขนส่ง กลุ่มวัสดุก่อสร้าง และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลกระทบต่อกลุ่มท่องเที่ยว อาหาร พาณิชย์ และโรงไฟฟ้า
"เรามองตลาดหุ้นไทยจะผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 3/65 เพราะช่วงที่ผ่านมาเฟดขึ้นดอกเบี้ยแรง แต่จีนก็เริ่มคุมโควิดในประเทศได้ อีกทั้งกำไรบริษัทจดทะเบียนไทยก็ยังดี แม้ว่าอาจจะเริ่มเห็นชะลอบ้าง จากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เงินเฟ้อที่สูง แต่การกลับมาเปิดประเทศทำให้สามารถดึงเศรษฐกิจกลับมาได้ แต่ตลาดหุ้นไทยอาจจะมีแรงกดดันดัชนีจากเงินทุนที่เคลื่อนย้ายออกได้ในบางช่วง" นายสุกิจ กล่าว
สำหรับการประเมินการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียน (EPS Growth) ในปี 65-66 คาดว่าจะยังเห็นการเติบโตที่ดีเฉลี่ย 10% ต่อปี โดยกลุ่มที่คาดว่าจะเห็น EPS ฟื้นตัวกลับไปที่ก่อนระดับโควิด-19 ได้แก่ กลุ่มธนาคาร กลุ่มพลังงาน กลุ่มปิโตรเคมี กลุ่มพาณิชย์ และกลุ่มท่องเที่ยว เป็นต้น