นายพลแสง แซ่เบ๊ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.โรแยล พลัส (PLUS) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/65 จะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสแรก เนื่องจากเป็นช่วงของไฮซีซั่น และยังได้รับปัจจัยบวกจากค่าขนส่งหรือค่าระวางเรือที่ปรับตัวลดลง ส่งผลให้ลูกค้าสหรัฐอเมริกาตัดสินใจสั่งซื้อสินค้าได้ง่ายและเร็วขึ้น รวมถึงค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงมาที่ราว 35 บาท/ดอลลาร์ ก็ส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานด้วย เนื่องจากบริษัทมีสัดส่วนส่งออกคิดเป็น 98-99%
ขณะที่ทั้งปี 65 บริษัทยังมั่นใจว่ารายได้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 50% จากปีก่อน หลังไตรมาส 1/65 เติบโตเกินเป้าไปแล้ว หรือมีรายได้ราว 390.2 ล้านบาท และคาดว่าไตรมาส 2/65 ก็น่าจะทำได้ตามเป้า โดยเตรียมออกสินค้าใหม่ในกลุ่มแพลนต์เบสด์ (Plant-based) จำนวน 2 รายการ คาดว่าจะสามารถส่งออกได้ในไตรมาส 2/65 และจะรับรู้ยอดขายเข้ามาในไตรมาส 3/65
กลยุทธ์การดำเนินงานในปีนี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาและออกผลิตภัณฑ์ใหม่มาร์จิ้นสูง ซึ่งจะเป็นสินค้าในกลุ่มแบรนด์ของบริษัทเอง (Own Brand) โดยตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ 30% ซึ่งจะเร่งสร้างแบรนด์ผ่านช่องทางออนไลน์และการออกบูธแสดงสินค้า
รวมถึงมุ่งเน้นการลดต้นทุนอย่างต่อเนื่อง โดยอยู่ระหว่างดำเนินการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) การปฏิบัติการและการบำรุงรักษาระบบให้กับโรงงาน อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ขนาดการติดตั้ง 984.96 กิโลวัตต์ เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้เองในกิจการ และสิทธิประโยชน์จากบีโอไอ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปีนี้ และน่าจะสามารถลดค่าไฟฟ้าลง 30%
สำหรับต้นทุนราคาวัตถุดิบ ปัจจุบันยังไม่มีความผันผวนมากนัก บริษัทจึงไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากราคายังอยู่ในระดับเดียวกันกับปีก่อน และต้นทุนค่าขนส่งช่วงนี้ก็ปรับลดลงแล้ว