บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบปรับลดหลังนักลงทุนหวั่นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐฯ ฉุดอุปสงค์ชะลอตัว-ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) เพื่อมุ่งลดภาวะเงินเฟ้ออันเนื่องจากต้นทุนพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย และกดดันความต้องการใช้น้ำมันในตลาดให้ชะลอตัวลง ขณะเดียวกันการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้นักลงทุนผู้ถือครองเงินสกุลอื่นสนใจในการลงทุนน้ำมันดิบลดลง-/+
นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เรียกร้องให้สภาคองเกรสอนุมัติการระงับการจัดเก็บภาษีน้ำมันเบนซิน 18.4เซนต์ต่อแกลลอนชั่วคราว เป็นระยะเวลา 3 เดือน เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำมันแพง หลังปัจจุบันราคาขายปลีกน้ำมันเฉลี่ยของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มสูงขึ้นแตะ 5 ดอลลาร์ต่อแกลลอน ซึ่งปรับเพิ่มสูงขึ้นกว่าร้อยละ 50 นับตั้งแต่ต้นปี 2565
หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) เผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุด ณ วันที่ 17มิ.ย. 65 ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 5.6 ล้านบาร์เรล และสำหรับปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังปรับเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล ขณะที่ปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังปรับลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล ราคาน้ำมันเบนซิน ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากการส่งออกของอินเดียในเดือน ก.ค. ที่มีแนวโน้มปรับสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนจากการผ่อนคลายมาตรการการควบคุมการแพร่ระบาดในจีน ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานปรับตัวเพิ่มขึ้นตามอัตราการกลั่นของโรงกลั่นในภูมิภาคขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันดีเซลมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นภายหลังการเปิดประเทศในหลายประเทศ
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส 106.19 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล -4.46 เหรียญฯ , เบรนท์ 111.74 หรียญสหรัฐ/บาร์เรล -2.91 เหรียญฯ, ดูไบ 106.42 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล -5.18 เหรียญฯ
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์ เบนซินออกเทน 95 อยู่ที่ 155.09 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล -5.65 เหรียญฯ, น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 164.84 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล -8.73 เหรียญฯ, ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 169.96 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล -7.26 เหรียญฯ, น้ำมันเตา (3.5% S) 92.43 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล -5.00 เหรียญฯ
บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลายสินค้าปรับลงแรง และแนวโน้มเป็นขาลง ทั้งราคาน้ำมัน Brent, ก๊าซธรรมชาติ, อลูมิเนียม น้ำตาล ฯลฯ(หากนับจาก High ล่าสุดของปี น้ำมันปรับลงรวม 12.2%, ก๊าซธรรมชาติปรับลงรวม 29%, อลูมิเนียมปรับลงรวม 37%) จากความกังวลฝั่ง Demand จะชะลอจาก(Recession) ประเมินเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นในกลุ่ม Anti Commodity อาทิ กลุ่มโรงไฟฟ้า GPSC, BGRIM, PTG, SCGP,EPG แต่เป็นลบต่อหุ้น PTT, PTTEP, KSL
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุว่า น้ำมันลดกระทบหุ้นพลังงานต้นน้ำ PTTEP,PTT แต่หุ้นได้ประโยชน์คือ Anti Commodity ได้แก่ SCC,BGRIM,GPSC,SCGP,CBG,OSP,AAV,EPG