โบรกฯแนะ"เก็งกำไร" KEST เห็น upside ยังสูง-รักษามาร์เก็ตแชร์เบอร์ 1

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 21, 2008 11:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          โบรกเกอร์ ยังแนะ"ซื้อ"และ"เก็งกำไร"หุ้น บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)หรือ KEST เพราะยังเห็น upside อยู่มากพอสมควร แต่ภาพรวมธุรกิจหลักทรัพย์ช่วงนี้ยังไม่ดีมาก โดยเดือนมี.ค.วอลุ่มซื้อขายลงต่ำกว่า 2 หมื่นล้านบาท/วัน แต่ดีที่บริษัทยังคงสามารถครองส่วนแบ่งตลาดอันดับหนึ่งไว้ได้อย่างเหนียวแน่น นอกจากนี้ ยังพยายามหารายได้จากธุรกิจ ทั้งด้านวานิชธนกิจ ค้าอนุพันธ์ และล่าสุดตั้งบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม
ราคาหุ้น KEST วันนี้เคลื่อนไหว 23.10 บาท (10.24 น.) ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
บล.ฟิลลิปฯ ซื้อเก็งกำไร 26.35
บล.ฟาร์อีสท์ ซื้อ 28.75
บล.กรุงศรีอยุธยา เก็งกำไร 30.25
บล.เกียรตินาคิน ซื้อ 29.75
บล.บัวหลวง รอ/ถือ 29.00
บทวิเคราะห์ของ บล.เกียรตินาคิน เห็นว่า KEST ยังคงครองส่วนแบ่งตลาดการซื้อขายในตลาดหลักทัพย์เป็นอันดับ 1 ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น แม้ว่าในไตรมาส 1/50 มีส่วนแบ่งตลาดลดลงเหลือ 8.2% จากไตรมาสก่อนที่มีส่วนแบ่งตลาด 8.47% จากการเพิ่มขึ้นของนักลงทุนต่างชาติที่ซื้อขายในตลาด
อย่างไรก็ดี ได้ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2551 ลง 6.6% มาที่ 667 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนลูกค้าที่ทำการซื้อขายทางอินเตอร์เน็ตที่มีค่าธรรมเนียมต่ำกว่าการส่งคำสั่งซื้อขายผ่านมาร์เก็ตติ้ง ทำให้ราคาเหมาะสมปรับลดลงเหลือ 29.75 บาท แต่ทั้งนี้ยังมี Upside gain อยู่ถึง 27.7% และการรักษาส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ได้อย่างเหนียวแน่น
บล.กรุงศรีอยุธยา คาดว่ากำไรสุทธิปี 51 ขยายตัว 19.3% จากปีก่อนเป็น 708 ล้านบาท โดยคาดว่ารายได้ค่านายหน้าจะขยายตัว 17.1% เป็น 1,895 ล้านบาท ภายใต้สมมุติฐานส่วนแบ่งการตลาดปี 51 ที่ 8.5% และมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ 1.9 หมื่นล้านบาท/วัน รายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น 10% เป็น 32 ล้านบาท และรายได้ธุรกิจอนุพันธ์ขยายตัว 60% เป็น 143 ล้านบาท โดยเราคาดว่า KEST จะจ่ายเงินปันผล 1 บาท/หุ้นในปี 51 สูงกว่า 0.88 บาท/หุ้นในปี 50
จากปัจจัยการเมืองมีความชัดเจนมากขึ้นจะทำให้ภาวะการลงทุนปีนี้มีแนวโน้มสดใสมากขึ้น ทำให้คาดว่ารายได้หลักจากธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ขยายตัว ขณะที่ธุรกิจด้านวาณิชธนกิจ KEST มีงานอยู่ในมือหลายดีล แต่รายได้หลักยังกระจุกตัวในธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ ในปี 50 KEST มีรายได้จากค่านายหน้าค้าหลักทรัพย์คิดเป็นสัดส่วน 82% ของรายได้รวม ถือเป็นความเสี่ยงในการกระจายรายได้ของ KEST
ด้านนายชัย จิระเสรีนุประพันธ์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.พัฒนสิน มองว่าธุรกิจหลักทรัพย์ยังเป็น bearish อยู่ และให้น้ำหนักกับหุ้น KEST ที่ Neutral ราคาเป้าหมายที่ 25 บาท โดย KEST ยังคงครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับหนึ่งไว้ได้ แต่เพราะปริมาณการซื้อขายของตลาดโดยรวมต่ำ โดยในเดือน มี.ค.วอลุ่มยังไม่ถึง 2 หมื่นล้านบาท ตัวธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักก็กระทบ ประกอบกับที่ผ่านมาราคาหุ้น KEST ก็ไม่ค่อยขยับเท่าไร
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.บัวหลวง เห็นว่า บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)หรือ KEST แม้ว่าปีนี้ผลประกอบการจะไม่หวือหวาตามสภาพตลาดรวม แต่ก็ยังสามารถรักษาส่วนแบ่งตลาดอันดับหนึ่งไว้ได้ และเมื่อพิจารณาระดับราคาในกระดานก็ยังมี upside จากราคาเป้าหมายที่ให้ไว้ 29 บาท
อย่างไรก็ตาม เห็นว่าขณะนี้ยังไม่ใช่จังหวะที่จะเข้าไปลงทุน ควรรอให้ภาวะตลาดโดยรวมมีปริมาณการซื้อขายมากกว่า 2 หมื่นล้านบาท/วัน จากปัจจุบันมีประมาณ 1 หมื่นกว่าล้านบาท หรือรอให้ราคาต่ำกว่า 22 บาท แต่หากมีอยู่แล้วควรถือไว้ก่อน
"จากนี้ไปรอดูอีก 1-2 เดือนให้ earning ประกาศออกมาก่อน ภาพของตลาดอาจจะชัดเจนขึ้น"นายชัยพร กล่าว

แท็ก UPS  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ