นายไมเคิล อเล็กซานเดอร์ วิลเลี่ยม เฟอร์นันเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอคิว เอสเตท (AQ) กล่าวว่า บริษัทมีแผนขยายสัดส่วนธุรกิจไปในตลาดต่างๆเพิ่มเติม และมีแผนเปิดตัวธุรกิจใหม่เร็วๆนี้ ซึ่งเป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับแนว Mega Trend ของโลกที่ตอนนี้กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในต่างประเทศ เชื่อว่าภาพรวม performance ของ AQ ในปี 65 นี้จะแสดงออกมาเป็นผลงานที่น่าพอใจนับตั้งแต่ช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา
สำหรับภาพรวมของธุรกิจในเครือบริหารของ AQ ปัจจุบันธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจโรงแรมที่เริ่มฟื้นตัวหลังจากภาครัฐมีนโยบายเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบด้วยการยกเลิกระบบ Test & Go และในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แนวราบยังคงทำกำไรได้ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะโตอย่างต่อเนื่องและเป็นส่วนที่ทำกำไรให้กับทางบริษัทอย่างมาก
ด้านธุรกิจโรงแรมของทางบริษัท AQ เริ่มกลับมาฟื้นตัวแล้วหลังจากได้รับอานิสงส์จากการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ โดยโรงแรมของ AQ อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ Aquarius Group มีจำนวนทั้งสิ้น 4 โรงแรมประกอบด้วย 1. โรงแรม The Tarna Align Resort เกาะเต่า 2. โรงแรม ShaSa Resort & Residences เกาะสมุย 3. โรงแรม Malibu Resort & Beach Club เกาะสมุย และ 4. โรงแรมเอลิคซ์ กรุงเทพฯ และจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ทางบริษัทจึงได้ทำการขายโรงแรมในเครือ คือ โรงแรมฟลอร่า ครีค เชียงใหม่ ออกไป เพื่อทำกำไรและปรับกลยุทธ์บริษัทสู่ธุรกิจที่สร้างกำไรดีกว่าและเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
ส่วนธุรกิจพลังงานที่ทางบริษัทได้เข้าไปลงทุนใน บริษัท GEP Thailand รวมถึงโรงไฟฟ้าพลังงานลม บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด นั้น ยังคงได้รับเงินปันผลจากการขายไฟอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบน้อยจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และจะเข้ามาเป็นธุรกิจที่สร้างกระแสเงินสดที่ต่อเนื่องให้กับบริษัทได้ในระยะยาว