นายรณฤทธิ์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สีเดลต้า (DPAINT) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้จะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากล่าสุด ได้เปิดตัว 2 กลุ่มผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ที่จะเข้ามาจับกลุ่มเซกเมนต์พรีเมียม หรือกลุ่มตลาดผู้รับเหมา และช่างสี เพื่อรองรับการใช้งานที่สะดวกและประหยัดเวลามากยิ่งขึ้น ได้แก่
1.DELTA GRYPTO 5 IN 1 เป็นสีน้ำมันเคลือบผสมรองพื้นกันสนิม สำหรับทาพื้นผิวเหล็ก
2.DELTA PRECAST SOLUTIONS ซึ่งเป็นกลุ่มเคมีภัณฑ์ที่ใช้สำหรับงานก่อสร้าง เช่น DELTA ROOFSEAL UV BLOCK เป็นผลิตภัณฑ์ทาทับกันซึม ทนต่อแสงแดด รังสียูวี, DELTA HYBRID/PU SEALANT ยาแนวรอยต่อปิดรอยแตกร้าวของผนัง, DELTA NON-SHRINK GROUT ปูนสำเร็จรูปชนิดไม่หดตัว ทนต่อแรงสั่นสะเทือน, DELTA SKIMCOAT ปูนฉาบชนิดเนื้อบางปิดรอยแตกร้าวของผนัง, DELTA CEMENT WATERPROOF FLEX ปูนซีเมนต์ชนิดใช้ทากันซึม, DELTA SELF-LEVELING ปูนชนิดปรับระดับด้วยตนเอง ช่วยปรับระดับพื้นให้เรียบเนียน, DELTA WALL PUTTY ปูนฉาบผนังชนิดแห้งไว ยึดเกาะได้ดี ปลอดภัยไร้สารอันตราย โดยบริษัทฯ คาดว่าจะสร้างยอดขายได้ราว 5% ต่อปี
ทั้งนี้ยังได้เปิดดำเนินการโรงงานแห่งที่ 2 ในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง โดยมีกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นประมาณ 50% เป็นกำลังการผลิตรวม 4.8 ล้านแกลลอนต่อปี โดยโรงงานใหม่ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Slurry แทนระบบ Co-Grind เพิ่มประสิทธิภาพ ช่วยลดขั้นตอนและลดการสูญเสียจากสารเคมีที่เป็นวัตถุดิบในการผลิต ทำให้สามารถลดค่าใช้จ่ายและต้นทุนในการผลิตได้มากขึ้น
นอกจากนี้บริษัทฯ ได้ปรับราคาสินค้าขึ้น 6-12% เพื่อรักษาอัตรากำไรและสะท้อนต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ลดต้นทุนวัตถุดิบ และลดค่าใช้จ่ายในการบริหารและการขาย คาดว่าจะลดต้นทุนการผลิตลงได้ประมาณ 3-5% ตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป
นายรณฤทธิ์ กล่าวว่า สำหรับการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย บริษัทฯ เริ่มขยายตลาดสีทาอาคารไปในประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ มีมูลค่าตลาดกว่า 17,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้ามีสัดส่วนรายได้จากประเทศดังกล่าวราว 10-15% ใน 3 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันอยู่ที่ 2% ขณะที่สัดส่วนการจำหน่ายหลักยังมาจากในประเทศมากกว่า 90% โดยมีการจำหน่ายผ่านช่องทางการจำหน่ายรวมกันมากกว่า 1,500 สาขา เกือบทั่วประเทศ ได้แก่ ร้านโมเดิร์นเทรด (Modern Trade) ร้านค้าปลีก (Retail) และงานโครงการ (Project) จึงตั้งเป้าเพิ่มจำนวนเครื่องผสมสีเป็น 600 เครื่องภายในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันมีเครื่องผสมสีทั้งหมด 505 เครื่อง เพื่อรองรับการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายที่ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น และจัดจำหน่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวบริษัทฯ จึงมั่นใจว่ายอดขายปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 25-30% จากปีก่อนทำได้ 750 ล้านบาท
บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อกิจการ (M&A) หลายดีล ในธุรกิจที่มีความเกี่ยวเนื่องกัน เพื่อเข้ามาเพิ่มมูลค่า หรือ Synergy ร่วมกัน คาดว่าจะสามารถเห็นความชัดเจนมากขึ้นในปีนี้