นายเอก สิทธิเวคิน รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 65 มีมติเห็นชอบการเจรจาต่อสัญญาเช่าที่ดิน อาคาร และทรัพย์สินของโรงแรมรถไฟหัวหิน ที่สถานีหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หรือโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ รีสอร์ท แอนด์ วิลล่า หัวหิน เนื้อที่ 71.65 ไร่ กับบริษัท เซ็นทรัลหัวหินบีชรีสอร์ท จำกัด ออกไปอีกเป็นเวลา 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2565-15 พฤษภาคม 2566 โดยใช้เงื่อนไขค่าเช่า ในปี 2564 ที่ประมาณ 9.4 ล้านบาท/ปี
โดย สัญญาเช่าที่ดินโรงแรมเซ็นทรัลหัวหินเดิม สิ้นสุดเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2562 ซึ่งบอร์ดรฟท.เห็นชอบให้มีการต่อสัญญาเช่าชั่วคราวไปแล้ว 2 ครั้ง คือช่วงปี 2563 ส่วนครั้งที่ 2 ต่อให้ 2 ปี (วันที่ 14 พฤษภาคม 2563 ถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2565) เนื่องจากเกิดสถานการณ์โควิด-19 และครั้งนี้ต้องต่ออีก1 ปี เนื่องจาก การศึกษารูปแบบการพัฒนาที่ดินแปลงดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการต่อสัญญากับผู้เช่ารายเดิม หรือประมูลหาผู้เช่ารายใหม่ ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป
"บอร์ดรฟท.ได้ให้เปรียบเทียบตัวเลขค่าใช้จ่าย กรณีรฟท.ยกเลิกสัญญาเลย ซึ่งจะต้องนำที่ดินกลับมาดำเนินการเอง โดยพบว่า มีภาระค่าใช้จ่ายสูง ทั้งค่าซ่อมบำรุง ค่าปรับปรุง ค่าดูแล ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ค่าพนักงาน เป็นต้น โดยไม่มีรายได้จากค่าเช่าที่เคยได้รับก่อนหน้านี้ ขณะที่การหาผู้เช่ารายใหม่ในระยะสั้น ไม่คุ้มค่า ดังนั้นการต่อสัญญากับผู้เช่ารายเดิมไปก่อน เพื่อไม่ให้รฟท.ต้องเสียโอกาส "นายเอกกล่าว
นายเอก กล่าวว่า บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) ต้องเร่งทบทวนการศึกษารูปแบบการพัฒนาและอัตราค่าเช่าที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและสถานการณ์ปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากการศึกษาเดิมทำไว้เมื่อปี 61 แล้ว จึงต้องประเมินผลกระทบจากโควิด และสภาพเศรษฐกิจ ระยะสัญญาเช่า ที่เหมาะสม ควรจะเป็น 10 ปี 15 ปี หรือมากกว่านั้น เพื่อให้มีความคุ้มค่ามากขึ้น นอกจากนี้ บอร์ดรฟท. ได้มีมติต่อสัญญาเช่าที่สถานีธนบุรี (ตลาดศาลาน้ำร้อน) เนื้อที่ประมาณ 25,000 ตารางเมตร กับบริษัท ยูไตเต็ด โกลเบิล เอเยนซี (ประเทศไทย) จำกัด เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค.65-19 ก.ค.75 โดยรฟท.ได้รับผลตอบแทน ตลอดระยะ 10 ปี จำนวน 139 ล้านบาท หรือเฉลี่ยค่าเช่าปีละประมาณ 16 ล้านบาท โดยกำหนดปรับขึ้นแบบขั้นบันได โดยช่วง 3 ปีแรก (ปี 65-67) ค่าเช่า 14.053 ล้านบาท/ปี และปรับขึ้น 10 % ช่วง 3 ปี ต่อมา (ปี 68-70) ค่าเช่าอยู่ที่ 15.450 %
ทั้งนี้ ตามผลการศึกษากำหนดเงื่อนไขให้ผู้เช่าดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์ สิ่งอำนวยความสะดวก บูรณะพัฒนาสิ่งปลูกสร้าง อาคาร ระบบสาธารณูปโภค เพื่อให้ตลาดมีความสะอาดตามมาตรฐานสาธารณสุข คิดเป็นมูลค่า 32 ล้านบาท ซึ่งหากปรับปรุงตลาดมีมูลค่าไม่ถึง 32 ล้านบาท ให้ชดเชยส่วนที่เหลือให้รฟท.