นางเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เสนา เจ พร็อพเพอร์ตี้ (SENA) เปิดเผยว่า หลังจากการเข้าซื้อกิจการของทาง บมจ.เจ.เอส.พี พร็อพเพอร์ตี้ (JSP) ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันทำให้มีสัดส่วนในการถือหุ้น JSP คิดเป็น 35.35%
การเข้าซื้อหุ้นสามัญของ JSP นับว่าเป็นการเพิ่มความสามารถในการเข้าถึงการเป็นบริษัทพัฒนาโครงการอสังหาฯทั้งโครงการแนวราบ และแนวสูง รวมถึงที่ดินรอการพัฒนา ซึ่งส่งผลให้ทางเสนาสามารถต่อยอดโครงการระหว่างการพัฒนาของ JSP ได้อย่างรวดเร็ว และทำให้ร่นระยะเวลาในช่วงของการเริ่มต้นพัฒนาโครงการไปได้ ที่สำคัญทำให้สามารถรับรู้รายได้จากโครงการของ JSP ได้ทันที
ทั้งนี้ หลังจากบริษัทฯ เข้าซื้อ JSP ได้มีการแจ้งเปลี่ยนชื่อเป็น บมจ.เสนา เจ พร็อพเพอร์ตี้ (SENAJ) พร้อมมีการปรับโครงสร้างบริษัทและจัดตั้งทีมงานใหม่ให้มีมาตรฐานเดียวกันรองรับโครงการใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ขณะเดียวกันก็ทำพอร์ตแนวราบขยายเพิ่มขึ้นมีฐานลูกค้าใหม่ทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑลและต่างจังหวัด ครอบคลุมทุกทำเลและระดับราคา ซึ่งเป็นการเสริมกระบวนทัพให้เสนาเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้ารายได้ 1,950 ล้านบาท และเป้าขาย 2,400 ล้านบาท หลังจากไตรมาส 1/65 มียอดขาย 118 ล้านบาท และรายได้ 159 ล้านบาท โดยในช่วงไตรมาส 1/65 ภายหลังจากที่บริษัทฯ เข้ามาบริหารจัดการ ในช่วง 1 เดือน ทำให้มีผลขาดทุนสุทธิ-ส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทฯ เท่ากับ 0.95 ล้านบาท ลดลงจากจำนวน 56.69 ล้านบาท คิดเป็น 101.71% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้ทาง SENAJ ยังมีแผนขยายโอกาสในธุรกิจใหม่ (New Business) ภายใต้กลยุทธ์ SENA Next ของบริษัทฯ ขยายธุรกิจบริการด้านการดูแล ป้องกัน และฟื้นฟูสุขภาพ SENAJ จับมือ ทีมแพทย์ผู้ชำนาญการจัดตั้งบริษัทในเครือภายใต้ Brand "SJ HEALTHCARE" รองรับการเติบโตของสังคมสูงอายุ และธุรกิจ FINANCIAL SERVICE ธุรกิจให้บริการทางการเงินเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้สำหรับคนทุกคนได้มีบ้านเป็นของตัวเอง
สำหรับในที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น SENA มีมติอนุมัติให้ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 1 (วอร์แรนต์) SENAJ - W1 จำนวนไม่เกิน 1,050 ล้านหน่วย ในราคาเสนอขายหน่วยละ 0.10 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น ในอัตราส่วนหุ้นสามัญเดิม 4 หุ้น ต่อใบสำคัญแสดงสิทธิ์ 1 หน่วย โดยมีอายุ 2 ปี ซึ่งได้มีการเปิดจองไปเมื่อช่วงวันที่ 6 - 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา ผลตอบรับดีเกิน ขายหมดเกลี้ยงทั้งจำนวน สะท้อนความเชื่อมั่นนักลงทุน โดยล่าสุดเตรียมเทรดอย่างเป็นทางการ วันที่ 1 ก.ค.นี้