นายพีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บมจ.กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล (GPI) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วงไตรมาส 3/65 คาดว่าจะมีกำไรได้ แม้ว่าจะผ่านช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจในช่วงไตรมาส 2/65 ที่มีการจัดงานมอเตอร์โชว์ไปแล้ว เนื่องจากงานมอเตอร์โชว์เป็นรายได้หลักให้กับบริษัท แต่ในช่วงไตรมาส 3/65 บริษัทจะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการเดินเครื่องผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) โรงไฟฟ้าพลังงานขยะชุมชนแปรรูป (RDF) ในจังหวัดนครสวรรค์ กำลังการผลิต 9 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนที่เข้าไปถือหุ้น 25-26% และช่วยหนุนผลงานในครึ่งปีหลังของปีนี้
ขณะเดียวกันในครึ่งปีหลังนี้ยังคงมีการเดินหน้าการจัดงานดิจิทัลมอเตอร์สปอร์ตอย่างต่อเนื่อง โดยมีการจัดการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ Gran Turismo Pro Series 2022 ซีซั่น 3 ระหว่างวันที่ 16 ก.ค.-3 ก.ย. 65 เข้ามาเพิ่มเติม ประกอบกับมีการมองหาโอกาสการจัดงานอีเว้นท์ประเภทอื่นๆที่จะเข้ามาเสริมจากงานหลัก คือ งานมอเตอร์โชว์ โดยที่ภายในช่วง 2-3 ปีจากนี้บริษัทจะพยายามขยายการจัดงานอีเว้นท์อื่นๆเข้ามาต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มรายได้เข้ามาให้กับบริษัทเฉลี่ย 100 ล้านบาท/ปี จากปกติที่จัดงานมอเตอร์โชว์มีรายได้เข้ามา 500-600 ล้านบาท/ปี
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมต่อยอดไปสู่ธุรกิจตกแต่งรถประเภทอื่นๆ เพื่อสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดอยู่ระหว่างการศึกษาเข้าสู่ตลาดรถคลาสสิก โดยการนำรถคลาสสิกที่ได้รับความนิยมและมีกลุ่มคนที่มีความชื่นชอบเป็นวงกว้าง เช่น Mercedes Benz มาปรับแต่งระบบให้เป็นรถยนต์ EV ซึ่งจะเป็นการพัฒนาปรับแต่งรถยนต์ทั้งคัน อาทิ ระบบขับเคลื่อน การตกแต่งภายใน การดีไซน์ เป็นต้น รวมถึงเพิ่มเติมฟังก์ชั่นต่างๆให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีอัตรากำไรอยู่ในระดับที่ดีและจะเพิ่มความสามารถทำกำไรโดยรวมของบริษัทให้ดียิ่งขึ้น
อีกทั้งยังมีการพิจารณาจับมือกับพันธมิตรในกลุ่มธุรกิจชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อร่วมลงทุนปรับแต่งรถคลาสสิก โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนารถต้นแบบ คาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนภายในปี 65 และจะเริ่มทำการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศภายในปี 66