นายศุภศิษฏ์ โภคินจารุรัศมิ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เมตะ คอร์ปอเรชั่น (META) เปิดเผยว่า บริษัทคาดผลประกอบการจะกลับมาเติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญ จากปี 64 ที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้ 89.11 ล้านบาท และมีผลขาดทุนอยู่ 100.13 ล้านบาท หลังจากที่บริษัทตุนงานในมือ (Backlog) ไว้ราว 4,478.47 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้ามินบูในประเทศเมียนมา โดยหลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้โครงการสามารถกลับมาดำเนินการก่อสร้างได้อย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้กว่า 1,000 ล้านบาท
สำหรับความคืบหน้าของการก่อสร้างโรงไฟฟ้ามินบูในเฟสที่ 2 ปัจจุบันงานขุดลอกท่อระบายน้ำในการก่อสร้างเพิ่มขึ้น 24% รวมกับการดำเนินงานก่อนหน้านี้คิดเป็น 86.09% ในขณะเดียวกันอยู่ระหว่างการเตรียมการก่อสร้างในเฟสที่ 3 และ 4 อย่างต่อเนื่องด้วย
"ในปีนี้ทิศทางผลประกอบการรวมของบริษัทจะกลับมาฟื้นตัวได้อย่างมีนัยสำคัญ หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จบลง โครงการก่อสร้างต่างๆกลับมาดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วง 2-3 ปีต่อจากนี้รายได้หลักจะยังคงมาจากงานก่อสร้าง แต่ในอนาคตจะมีสัดส่วนรายได้ที่มาจากธุรกิจอื่นๆเพิ่มมากขึ้น"นายศุภศิษฏ์ กล่าว
ด้านนายชนน วังตาล กรรมการบริหารบริษัท META กล่าวถึงแผนการขยายธุรกิจสินเชื่อ Pico เงินด่วนว่าในปี 65 บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 37 ล้านบาท โดยบริษัทคาดว่าจะมีพอร์ตสินเชื่อ 220-250 ล้านบาท โดยบริษัทเตรียมที่จะพัฒนาแพลตฟอร์มที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อรองรับลูกค้าจากทุกกลุ่มอาชีพในทุกจังหวัดเศรษฐกิจ พร้อมทั้งนำร่องขยายใบอนุญาตใหม่เพิ่มขึ้นในอีก 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชลบุรี เชียงใหม่ นครราชสีมา และภูเก็ต
นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนของธุรกิจ Pico เงินด่วนเป็น 300 ล้านบาท จากเดิมที่ 100 ล้านบาท พร้อมทั้งลงทุนเพิ่มอีก 15% ส่งผลให้บริษัทเข้าลงทุนรวมเป็น 100% ในช่วงไตรมาส 3/65 จากเดิมที่ลงทุนอยู่ 85% โดยธุรกิจมีแนวโน้มการเติบโตอย่างก้าวกระโดดทุกปี นอกจากนี้ ผลตอบรับของธุรกิจ Pico เงินด่วนที่เพิ่มขึ้นสูงนั้นยังมีศักยภาพพอที่จะมาเป็นรายได้หลักของบริษัทในอนาคตด้วย
นอกเหนือจากธุรกิจให้บริการ Non-Bank ที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้แล้ว ทางบริษัทยังมีแผนที่จะเพิ่มทางเลือกในการลงทุนให้แก่นักลงทุนมากยิ่งขึ้นในอนาคต ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาในด้านธุรกิจ Fintech เพิ่มเติมซึ่งเป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับธุรกิจเดิมที่ทางบริษัทดำเนินการอยู่