นายวิชาญ วิริยะภูษิต ประธานผู้บริหารสายงานการเงิน บมจ.แสนสิริ (SIRI) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ หลังจากต้นปี 65 ประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นกู้ดิจิทัลที่มีนักลงทุนจำนวนมากให้ความสนใจจองซื้อผ่านแอปฯ เป๋าตัง ส่งผลให้ยอดจองซื้อเต็มมูลค่าเสนอขายสองพันล้านบาทภายใน 3 นาที 38 วินาที และสนับสนุนให้คนไทยทุกคนเข้าถึงการลงทุนได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมด้วยกำหนดจองซื้อขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท
ล่าสุดเพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมในทุกมิติรวมไปถึงด้านการลงทุนที่ต้องเท่าเทียมและเข้าถึงได้ และไม่หยุดยั้งในการนำเสนอนวัตกรรมทางการเงินในรูปแบบใหม่ๆ SIRI ยังได้ร่วมมือกับ ธนาคารกรุงไทย (KTB) และธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) เสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่อายุ 4 ปี ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อัตราดอกเบี้ยคงที่ (3.90-4%) ต่อปี โดยอัตราดอกเบี้ยแน่นอนจะประกาศอีกครั้ง สอดคล้องกับสถานการณ์อัตราดอกเบี้ยขาขึ้นในปัจจุบัน กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้
ทั้งนี้ เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำที่ให้ความสำคัญในเรื่องการลงทุนที่ต้องเข้าถึงง่ายและเท่าเทียม แสนสิริยังได้สานต่อการกำหนดมูลค่าจองซื้อขั้นต่ำไว้ที่ 1,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 1,000 บาท เช่นเดียวกับหุ้นกู้ที่เริ่มปฏิวัติการลงทุนให้เป็นหุ้นกู้ที่ทุกคนลงทุนง่ายตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยสามารถจองซื้อผ่านวอลเล็ตซื้อขายหุ้นกู้บนแอปฯ "เป๋าตัง" ของธนาคารกรุงไทย และแอปฯ "CIMB Thai Digital Banking" ของธนาคารซีไอเอ็มบีไทย คาดว่าจะเสนอขายระหว่างวันที่ 19-21 ก.ค. 65
"แสนสิริหวังว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีต่อเนื่องจากที่นักลงทุนให้การตอบรับหุ้นกู้ของบริษัทเป็นอย่างดีเสมอมา สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุน รวมทั้งความแข็งแกร่งในธุรกิจอสังหาฯ จากการมองตลาดเร็วและพร้อมปรับตัวรองรับทุกสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา"นายวิชาญ กล่าว
วัตถุประสงค์การออกหุ้นกู้ครั้งนี้ เพื่อนำไปชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดและเป็นเงินทุนหมุนเวียน รองรับแผนรุกธุรกิจเต็มกำลังในช่วงครึ่งหลังปี 65 สอดรับแนวโน้มตลาดอสังหาฯ คาดว่าจะมีการทยอยเปิดตัวโครงการใหม่มากขึ้น ทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียม รวมทั้งรองรับแผนการเติบโตระยะยาว 3 ปีของ SIRI ด้วยแผนการเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่ารวม 1.5 แสนล้านบาท พร้อมเป้าหมายยอดขายรวม 1.2 แสนล้านบาท
ในช่วงครึ่งหลังของปี 65 แสนสิริยังพร้อมเดินหน้าก้าวแกร่งภายใต้วิสัยทัศน์ "STEP BEYOND" เติบโตแข็งแกร่งยั่งยืนในทุกมิติ ด้วย 3 กุญแจสำคัญขับเคลื่อนองค์กร PROFIT - PEOPLE - PLANET โดยในปีนี้แสนสิริจะมุ่งเน้นการสร้างรายได้และผลกำไรเพื่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกส่วน ด้วยแผนการเปิดตัว 46 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 5 หมื่นล้านบาท และเป้าหมายยอดขายและยอดโอนโครงการ ในปี 65 อยู่ที่ 3.5 หมื่นล้านบาท
ขณะที่ในด้าน PEOPLE แสนสิริจะขับเคลื่อนองค์กร ด้วยแนวคิด "YOU Are Made For Life" ทุกคนเป็นศูนย์กลางการขับเคลื่อนที่สำคัญของแสนสิริ ทั้งพนักงาน ลูกค้า และสังคม อาทิ การส่งเสริมความเสมอภาคในพนักงาน ทั้งในด้านการเติบโตและสวัสดิการของทุกเพศ การนำเสนอโครงการที่คิดมาจากความต้องการของกลุ่มลูกค้าอย่างแท้จริง และ คนตัวใหญ่ต้องช่วยคนตัวเล็ก ลดความเหลื่อมล้ำ ส่งเสริมความเท่าเทียมในสังคม
ส่วนด้าน PLANET แสนสิริได้เดินหน้าพันธกิจสีเขียว โดยวางเป้าเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายแรกของไทย ที่มุ่งมั่นสู่ Net-zero องค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ พร้อมรวมพลังบวกกู้วิกฤตสิ่งแวดล้อมโลก โดยล่าสุด แสนสิริได้ประกาศพันธกิจปลูกต้นไม้ 20,000 ต้น เพื่อกรุงเทพมหานคร ซึ่งนับเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายปลูกต้นไม้ล้านต้น หลังในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาแสนสิริปลูกต้นไม้รวมกว่า 200,000 ต้น และปี 65 มีแผนปลูกต้นไม้ในโครงการเพิ่มอีก 85,000 ต้น
นอกจากนี้ บ้านเดี่ยวแสนสิริทุกหลัง - พื้นที่ส่วนกลาง ในทุกๆ โครงการใหม่ แสนสิริจะติด Solar Roof 100% รวมทั้งโครงการบ้านเดี่ยวระดับบนทุกโครงการใหม่ติดตั้ง EV Charger เต็ม 100% เพื่อผลักดันให้ลูกบ้านได้เข้าถึงพลังงานสะอาด และช่วยรักษาโลกไปพร้อมๆกัน