นายไพบูลย์ สุขธรรมวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอส.อี.ซี. ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (SECC) เปิดเผยว่า บริษัทได้หันมาขยายฐานลูกค้าที่มีความต้องการซื้อรถระดับราคา 2 ล้านบาทปลายๆ เนื่องจากฐานลูกค้าระดับดังกล่าวมีจำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นการปรับกลยุทธ์เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นสูง ซึ่งในไตรมาส 2 นี้ จะมีการออกรถยนต์รุ่นใหม่ 4-5 รุ่น จากต้นปีที่บริษัทนำรถเข้ามาจำหน่าย 3-4 รุ่นแล้ว
นอกจากนี้อัตราแลกเปลี่ยนมีผลกระทบต่อบริษัทเช่นกัน ซึ่งหากค่าเงินแข็งค่าขึ้น 5% จะทำให้ราคาขายปรับลดลงมา 5%
"เราเริ่มเห็นสัญญาณการชะลอในบางกลุ่มตั้งแต่ปลายปี 50 แต่การที่บริษัทนำเข้ารถยนต์ระดับพรีเมี่ยม จึงได้รับผลกระทบน้อย เพราะลูกค้าส่วนใหญ่มีกำลังซื้อ แต่การที่เราหันมา ขยายฐานลูกค้าระดับ 2 ล้านบาท เป็นการขยายฐานนอกเหนือจากที่เรามี ขณะที่รถมือสอง และรถ NGV ก็มีอัตราการเติบโตที่ยังดีอยู่"นายไพบูลย์ กล่าว
นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของความคืบหน้าการตั้งโชว์รูม ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบและการต่อรองราคาที่ดินที่บริษัทจะเข้าไปสร้าง คาดว่าไตรมาส 2 - ไตรมาส 3 จะได้ข้อสรุป จึงยังไม่สามารถประเมินงบลงทุนได้ในตอนนี้ แต่ในส่วนของงบการตลาด วางไว้ 70-80 ล้านบาท
โดยในปีนี้บริษัทจะจัดงานมหกรรมรถยนต์"The Miracle of S.E.C."ในวันที่ 28 มี.ค.-6 เม.ย.นี้ โดยจะนำรถยนต์รุ่นใหม่ที่มีความหลากหลายและระดับราคาไม่แพง งานนี้ใช้งบการประมาณในการจัดงาน 6 ล้านบาท บริษัทคาดหวังยอดขายจากงานนี้ไม่น้อยกว่า 200-250 ล้านบาท และขณะนี้บริษัทกำลังจัดงาน “The Glitz" The Luxury Lifestyle Week 2008" ในวันที่ 19-24 มี.ค.51
นายไพบูลย์ กล่าวว่า ในปีนี้ยังสามารถสร้างยอดขายทั้งปีเติบโต 10% จากปี 50 ที่มีรายได้ 2,742 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมของตลาดรถยนต์ในปีนี้ คาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 5-10% เติบโตมากกว่าปีก่อนที่เติบโต 5% โดยในไตรมาส 2 จะเริ่มเห็นความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับมา ซึ่งจะส่งผลดีต่อยอดขายของบริษัทด้วย จากช่วงไตรมาส 1 ที่ส่วนใหญ่การลงทุนและตัดสินใจซื้อ
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/นิศารัตน์ โทร.0-2253-5050 ต่อ 322 อีเมล์: nisarat@infoquest.co.th--